Categories
Mumble YIY

สะตายยยยย – สไตล์

คนในบ้านวายไอวายมีสไตล์เป็นของตัวเอง
ทั้งแนวความคิด ความเชื่อ วิธีการใช้ชีวิต รูปแบบการทำงาน ลากยาวไปจนถึงการดูแลคนอื่นรอบตัว

เมื่อวาน (31 สิงหา) นั่งรถทัวร์กลับจากลำปาง
มีคนโทรชวนไปร่าเริงที่ร้านเหล้าตรง 5 แยกลาดพร้าว
แน่นอน แนนไปไม่ได้ (เพิ่งขึ้นรถเองมั้งตอนนั้น -*-)

ด้วยความเสียดาย และอยากแจ้งข่าวการเดินทางให้สมาชิกในบ้านรู้
ส่งข้อความไปว่า

กำลังกลับกทม.ละ
ตะกี้มีคนโทรชวนไปมะนิลาเฉยเลย
เสียดายอ่ะ

ดูดิ๊ ชาวบ้านวายไอวายยังมีสไตล์การตอบข้อความต่างกันอย่างเห็นได้ชัด

พี่มะเดี่ยว:
55
(สั้นได้อีก)

พี่เป๊ะ:
แหมๆ ชิชะ…
(ตามประสาเจ๊เหน็บ)
เค้าถูกชิ่งค่าบัตรคอนเสิร์ตหละ แงแงแง
(แอบแทรกอัปเดตชีวิตตัวเองให้เรารู้ด้วย)

พี่อุ๊:
มีครั้งนี้ก็มีครั้งหน้าน่า 😉
(พี่สาวที่พร้อมให้กำลังใจและสร้างการเรียนรู้ให้น้องได้เสมอ)

พี่เก๋:
ไว้ไปกะพี่สองต่อสองเอาป่าวจ๊ะน้องสาว
ว่าแต่ว่าเดินทางดีๆ น้า
แล้วเจอกันจ้า
(ห่วงใย ไปด้วยกัน พี่เก๋ตัวจริงเสียงจริงชัวร์!)

อิปาล์ม:
(ครั้งนี้มันไม่ตอบ -*-)

เล็กๆ น้อยๆ
เป็นความทรงจำขำๆ

เค้ารักนะ

Categories
Mumble

บ้าน

เมื่อวาน ขากลับจากทริปเยี่ยมโครงการน้องยิ้ม4
3 วัน เหยียบ 4 จังหวัด
เชียงราย เชียงใหม่ แพร่ น่าน (ถ้ามีอารมณ์คงได้มาเล่าเป็นเรื่องเป็นราว ยาวๆ)

ระหว่างทางก่อนถึงกรุงเทพฯ
จินตนาการถึงที่นอนธรรมดาๆ ในบ้านหลังเล็ก
นึกถึงคนที่บ้าน แล้วรู้สึกยินดี

รู้สึกว่ามีจุดหมายปลายทาง มีอะไรรออยู่
และสิ่งที่ไม่ได้รู้สึกมานาน
คืออยากกลับบ้าน

ช่วงเวลานี้ของแนน นับว่าเป็นเรื่องดี
แต่ต่อไปอาจกลายเป็นแย่
เพราะเรากำลังผูกพันกับสถานที่และบุคคลหนึ่งมากเกินไป

พอถึงเวลาที่อะไรต่อมิอะไรจะเปลี่ยน
คนที่แย่คือเราเอง

อ่าว
ทำไมตอนสรุปมันเศร้าวะ
ตั้งใจจะบอกว่า
วันนี้แนนมีความสุขและรู้สึกดีที่มีบ้านกับครอบครัววายไอวาย

อีกเรื่องต่อเนื่องกัน
เมื่อเช้าพี่มะเดี่ยวมาบอก
พี่ว่าจะไม่ย้ายออกไปอยู่หอแล้วนะ
(ดีใจ แต่ไม่แสดงออก ทำหน้านิ่งมาก)
แต่ว่าพี่จะย้ายกลับไปอยู่บ้านแทน
(เสียใจ หน้าที่นิ่งอยู่แล้วนิ่งกว่าเดิม)

อื้อ
เมื่อไหร่เหรอคะ
น่าจะเป็นช่วงสิ้นเดือนนี้แหละ

อ่าฮะ…
ดีๆ

-จบบทสนทนา-

อารมณ์แนนกลับมาเหี่ยวดังเดิม

-เริ่มใหม่ตอนบ่ายๆ-
พี่เดี่ยวไม่อยู่แนนก็เหงาแย่ดิ
หู้ย.. ไม่เหงาหรอก ทำยังกับว่าตอนอยู่ด้วยกันจะคุยกันเยอะงั้นแหละ
(แทงใจดำ)
เออเนอะ

จริง
ระหว่างวันแทบไม่คุยกันเลย
ตอนกลางคืนยิ่งแล้วใหญ่
จะว่าไปก็เหมือนต่างคนต่างอยู่

พี่เดี่ยวก็ทำงานอดิเรกไป เลี้ยงปลา ทำตู้ปลา ปลูกต้นไม้ ไปจตุจักร นอนดูหนัง
พี่เดี่ยวกินเหล้ากินเบียร์อยู่หน้าบ้านแนนก็ไม่ค่อยได้ไปนั่งด้วย

แนนก็เล่นเน็ต ดูหนังแผ่น ดูซีรีย์ นั่งหน้าคอมซะมาก
ออกไปกับเพื่อนที่ฟอนต์ ดูหนัง ซื้อหนังสือ อ่านหนังสือ อ่านการ์ตูน นอน

แล้วพอจะต้องอยู่คนเดียวในบ้านขึ้นมา
ทำไมแนนต้องเศร้าด้วยวะ
(เอาแล้วไง พิมพ์ถึงตรงนี้แล้วแม่งยิ่งเศร้า)

กูเป็นอะไรเนี่ย

ช่างมัน
คิดมาถึงตรงนี้แล้วไม่อยากคิดต่อ

มีอย่างนึง (ที่จริงคงหลายอย่าง) ที่พี่เดี่ยวเคยสงสัย
ไม่รู้ลืมไปหรือยัง

น้องแนนร้องไห้ทำไม

เออ
ถ้าว่ากันตรงๆ
อันนี้แหละที่เป็นสาเหตุให้แนนน้ำตาไหลอยู่เรื่อยตอนคุยกับพี่เดี่ยว
อันที่พี่เดี่ยวจะไม่อยู่บ้าน
กับที่เรื่องของพี่เดี่ยวกับเรื่องของแนน เป็นคนละเรื่องกัน

น้องแนนโกรธอะไรพี่เดี่ยวนักหนา
เรื่องเล็กๆ แนนก็เคืองได้นานเป็นวันๆ –จนถึงหลายวัน

น้อยใจมั้ง
สะสมไว้เรื่อยๆ
อะไรที่คนอยู่ด้วยกันน่าจะได้รับรู้
แนนไม่เคยพยายามเอาตัวเองเข้าไปรู้ ทำเป็นไม่ได้อยากรู้
พี่เดี่ยวก็ไม่ได้คิดเยอะ ไม่คิดมาก มีคนให้คุยด้วย (และคุยรู้เรื่องกว่าแนน) ตั้งหลายคน
เพราะฉะนั้นอะไรที่ไม่เกี่ยวกับแนน ก็ไม่ได้เอามาเล่าให้ฟัง

แนนกำลังไม่ยอมรับตัวเองที่เป็นที่ปรึกษาให้ใครไม่ได้
และไม่ได้สำคัญกับชีวิตของใคร อย่างที่อยากให้เป็น
แต่ทั้งหมดทั้งปวง มีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นเยอะแยะมากมาย
แนนก็ขอบคุณ

มันพูดยากนะ
เรื่องเล็กของใครต่อใคร มักเป็นเรื่องใหญ่ของแนน
สงสัยต้องตายแบบโดดเดี่ยว (ประโยคนี้ไม่ค่อยเกี่ยว แต่ดันนึกขึ้นได้เลยพิมพ์ลงไป)

บันทึกไว้แค่นี้พอ
ยังคิดไม่เสร็จแต่ไม่คิดต่อ
จบแบบไม่จบนี่แหละดี –อย่างน้อยก็ดีสำหรับเวลานี้ ดีกับแนนในตอนนี้

——

เอ้อ
อะไรวะ
ก็แค่จะกลับไปอยู่บ้านตัวเอง
ไม่ได้หายไปไหนซักหน่อย ทำมาโวยวายอะไรเยอะแยะ

(แนนเถียงกับตัวเองอีกแล้ว -*-)