นั่งแท็กซี่-ขนของจากลาดพร้าว ผ่านตลาดคลองเตยไปทำงานที่ชุมชนตลาดปีนัง ติดไฟแดงตรงห้าแยก ณ ระนอง
มองไปมองมาเห็นคนนั่งกินอะไรบางอย่างอยู่ริมหัวมุมถนนฝั่งซ้ายมือ สันนิษฐานว่าเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวเล็กๆ คล้ายที่มีอยู่ทั่วไปตามหน้าเซเว่น ด้วยความอยากรู้ว่าเป็นอะไรกันแน่จึงพยายามมองหารถเข็น/ตู้ก๋วยเตี๋ยวก็ไม่เจอ บังเอิญเงยหน้าขึ้นนิดนึงถึงได้เห็นป้ายใหญ่ยักษ์!

(สมมุติว่าเราอยู่ในแท็กซี่สีชมพู แหงะหน้ามาเห็นป้ายร้าน วินาทีนั้นตกใจในความใหญ่และสงสัยว่าร้านก๋วยเตี๋ยวริมทางทำไมต้องลงทุนทำป้ายขนาดนี้)
เราปักใจในความสงสัย ประกอบกับมีเวลาว่างนิดหน่อยก่อนเริ่มงาน จึงตัดสินใจเดินข้ามสะพานลอยจากถนนฝั่งตึกล็อกซเล่ย์เพื่อลองก๋วยเตี๋ยวที่ว่า
มายืนหน้าร้านจึงถึงบางอ้อ เพราะเล่าซาไม่ได้เป็นร้านริมทางเล็กๆ อย่างที่เราเข้าใจ
เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวขนาดประมาณ 2.5 คูหา แต่ว่าลูกค้ามักเยอะจนล้นจึงต้องใช้พื้นที่หน้าร้านตั้งโต๊ะเพิ่มด้วย
เนื่องจากสะพานลอยถูกจัดวางให้บังหน้าร้านพอดิบพอดีทำให้เรามองไม่เห็นคูหาที่มีตู้และหม้อก๋วยเตี๋ยวตั้งอยู่
ความประทับใจแรกที่มีต่อเล่าซาคือ เดินมาถึงหน้าร้านปุ๊บไม่ต้องยืนรอทำหน้าเอ๋อ มีคนจดออร์เดอร์สังเกตเห็นทันทีและเข้ามาประชิดตัวเพื่อจัดแจงที่นั่งและรอรับรายการอาหารเลย
ถ้าเราลังเลเค้าจะบอกรายการที่มีอยู่ (อาจ) ช่วยให้เราตัดสินใจง่ายขึ้นด้วย
และนี่คือเล็กน้ำยำไม่ถั่วของเรา (30 บาท)

รสชาติหลักของชามนี้คือเปรี้ยวนำ หวานตาม (ซึ่งไม่ใช่รถชาติที่เราปรารถนา)
จึงเติมน้ำปลาหนึ่งช้อน คนแล้วชิม อร่อย~ เป็นอันเสร็จพิธี
ลูกชิ้นปลาในชามมี 5 แบบ แบบกลมลวก, แบบกลมทอด, รักบี้สาหร่าย, แบน, ฮื่อก้วย (ลูกชิ้นปลาทอดแบบยาว) อร่อยทุกแบบ (ถ้านับเกี๊ยวปลาด้วยก็รวมเป็น 6 แบบ) หนึบหนับไม่เหม็นคาวสักนิด
บนโต๊ะมีเครื่องปรุงหลักและหนังปลากรอบ (ถุงละ 15 บาท) ไว้บริการ ไม่ได้ลองกินแต่คิดว่าน่าจะเข้ากับก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาอย่างมาก (ไหนๆ กินเนื้อปลาแล้วต้องกินหนังปลาตามไปด้วย ฮ่าๆ)
จากหน้าร้านหันหน้าเข้าหาถนนเยื้องไปทางขวา มีปอเปี๊ยะสดขาย สามารถสั่งเข้ามากินในร้านได้ (ไม่ได้ถามราคา)
ระหว่างซดน้ำซุป-สูดเส้นก๋วยเตี๋ยว-เคี้ยวลูกชิ้นปลา เล่าซามีลูกค้าเดินเข้าออกไม่ขาดสาย คนนั่งกินในร้านก็เยอะ ซื้อใส่ถุงกลับบ้านก็มี เห็นตั้งแต่คนขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างยันเจ้าของรถยนต์ส่วนตัว
ลูกชิ้นปลาในเล่าซาเป็นลูกชิ้นปลาทำเอง ของสดใหม่ทุกวัน
ถ้าจำไม่ผิดที่อ่านจากหน้าร้าน เขาเปิดขายมากว่า 30 ปีแล้ว
เสียดายที่อยู่ไกลจากบ้านเรา ไม่งั้นคงได้มากินบ่อยๆ (อย่างไรก็ตามจะหาโอกาสมาลองเมนูอื่นๆ ให้จงได้)

ข้อมูลร้านเล่าซาเพิ่มเติม นายเหลือง.คอม มีให้อ่านต่อ (ขอขอบคุณไว้ ณ ที่นี้จ้ะ)