Categories
Delicious

นิทาน เล่าไปพับไป

หานิทานไปเล่าให้เด็กๆ ที่ชุมชนตลาดปีนัง (คลองเตย) ฟัง ซื้อหนังสือนิทานมาสอง-สามเล่ม มีหุ่นมือคุณช้างอยู่หนึ่งตัว คิดว่าจะให้คุณช้างเป็นผู้เชิญชวนเด็กๆ มาฟังนิทาน คุณช้างน่าจะดึงดูดเด็กๆ ได้ดีกว่าเรา ^^”

แต่เด็กๆ ฟังอย่างเดียว รู้สึกมันขาดสีสัน อยากให้พวกเขาได้เรียนรู้บางอย่างจากนิทานมากกว่าการฟัง (ซึ่งได้เรื่องราวและได้แง่คิดบางอย่างอยู่แล้ว) เลยจะหาเรื่องที่เล่าไปวาดภาพไป เล่าไปพับกระดาษไป เหมือนที่เคยดูในรายการทีวีตอนเด็กๆ และแม่เรา (ซึ่งเป็นครู) ก็เคยซื้อหนังสือทำนองนี้มาให้ได้อ่าน

ค้นเจอคลิปเล่านิทานและพับกระดาษเรื่อง “เจ้าปุกปุย” ดูแล้วน่าสนใจมาก เราฟังและพับกระดาษตามยังรู้สึกสนุกไปด้วย คิดว่าไม่พ้นบ่ายวันนี้จะเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้จงได้ ตอนนี้เตรียมอุปกรณ์พวกกระดาษ-ปากกา-สีไม้ไว้แล้วเรียบร้อย (^-^) และนอกจากให้เด็กๆ พับกระดาษเป็นรูปเจ้าปุกปุยด้วยกัน เราจะลองให้พวกเขาใช้จินตนาการวาดบ้านให้เจ้าปุกปุยเพิ่มด้วย คิดแล้วน่าสนุกไม่น้อย =D

หมายเหตุ

ขอบคุณน้องต้นหลิวและเจ้าของคลิปสำหรับต้นแบบนิทานน่ารักๆ =)

Categories
Delicious

เล่าซา ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา

นั่งแท็กซี่-ขนของจากลาดพร้าว ผ่านตลาดคลองเตยไปทำงานที่ชุมชนตลาดปีนัง ติดไฟแดงตรงห้าแยก ณ ระนอง
มองไปมองมาเห็นคนนั่งกินอะไรบางอย่างอยู่ริมหัวมุมถนนฝั่งซ้ายมือ สันนิษฐานว่าเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวเล็กๆ คล้ายที่มีอยู่ทั่วไปตามหน้าเซเว่น ด้วยความอยากรู้ว่าเป็นอะไรกันแน่จึงพยายามมองหารถเข็น/ตู้ก๋วยเตี๋ยวก็ไม่เจอ บังเอิญเงยหน้าขึ้นนิดนึงถึงได้เห็นป้ายใหญ่ยักษ์!

(สมมุติว่าเราอยู่ในแท็กซี่สีชมพู แหงะหน้ามาเห็นป้ายร้าน วินาทีนั้นตกใจในความใหญ่และสงสัยว่าร้านก๋วยเตี๋ยวริมทางทำไมต้องลงทุนทำป้ายขนาดนี้)
เราปักใจในความสงสัย ประกอบกับมีเวลาว่างนิดหน่อยก่อนเริ่มงาน จึงตัดสินใจเดินข้ามสะพานลอยจากถนนฝั่งตึกล็อกซเล่ย์เพื่อลองก๋วยเตี๋ยวที่ว่า

มายืนหน้าร้านจึงถึงบางอ้อ เพราะเล่าซาไม่ได้เป็นร้านริมทางเล็กๆ อย่างที่เราเข้าใจ
เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวขนาดประมาณ 2.5 คูหา แต่ว่าลูกค้ามักเยอะจนล้นจึงต้องใช้พื้นที่หน้าร้านตั้งโต๊ะเพิ่มด้วย
เนื่องจากสะพานลอยถูกจัดวางให้บังหน้าร้านพอดิบพอดีทำให้เรามองไม่เห็นคูหาที่มีตู้และหม้อก๋วยเตี๋ยวตั้งอยู่

ความประทับใจแรกที่มีต่อเล่าซาคือ เดินมาถึงหน้าร้านปุ๊บไม่ต้องยืนรอทำหน้าเอ๋อ มีคนจดออร์เดอร์สังเกตเห็นทันทีและเข้ามาประชิดตัวเพื่อจัดแจงที่นั่งและรอรับรายการอาหารเลย
ถ้าเราลังเลเค้าจะบอกรายการที่มีอยู่ (อาจ) ช่วยให้เราตัดสินใจง่ายขึ้นด้วย

และนี่คือเล็กน้ำยำไม่ถั่วของเรา (30 บาท)

รสชาติหลักของชามนี้คือเปรี้ยวนำ หวานตาม (ซึ่งไม่ใช่รถชาติที่เราปรารถนา)
จึงเติมน้ำปลาหนึ่งช้อน คนแล้วชิม อร่อย~ เป็นอันเสร็จพิธี
ลูกชิ้นปลาในชามมี 5 แบบ แบบกลมลวก, แบบกลมทอด, รักบี้สาหร่าย, แบน, ฮื่อก้วย (ลูกชิ้นปลาทอดแบบยาว) อร่อยทุกแบบ (ถ้านับเกี๊ยวปลาด้วยก็รวมเป็น 6 แบบ) หนึบหนับไม่เหม็นคาวสักนิด

บนโต๊ะมีเครื่องปรุงหลักและหนังปลากรอบ (ถุงละ 15 บาท) ไว้บริการ ไม่ได้ลองกินแต่คิดว่าน่าจะเข้ากับก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาอย่างมาก (ไหนๆ กินเนื้อปลาแล้วต้องกินหนังปลาตามไปด้วย ฮ่าๆ)
จากหน้าร้านหันหน้าเข้าหาถนนเยื้องไปทางขวา มีปอเปี๊ยะสดขาย สามารถสั่งเข้ามากินในร้านได้ (ไม่ได้ถามราคา)

ระหว่างซดน้ำซุป-สูดเส้นก๋วยเตี๋ยว-เคี้ยวลูกชิ้นปลา เล่าซามีลูกค้าเดินเข้าออกไม่ขาดสาย คนนั่งกินในร้านก็เยอะ ซื้อใส่ถุงกลับบ้านก็มี เห็นตั้งแต่คนขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างยันเจ้าของรถยนต์ส่วนตัว

ลูกชิ้นปลาในเล่าซาเป็นลูกชิ้นปลาทำเอง ของสดใหม่ทุกวัน
ถ้าจำไม่ผิดที่อ่านจากหน้าร้าน เขาเปิดขายมากว่า 30 ปีแล้ว
เสียดายที่อยู่ไกลจากบ้านเรา ไม่งั้นคงได้มากินบ่อยๆ (อย่างไรก็ตามจะหาโอกาสมาลองเมนูอื่นๆ ให้จงได้)

ข้อมูลร้านเล่าซาเพิ่มเติม นายเหลือง.คอม มีให้อ่านต่อ (ขอขอบคุณไว้ ณ ที่นี้จ้ะ)

Categories
Stuff

Thaitanium : Still Resisting

เราเป็นคนมีโชคกับเรื่องเล็กน้อย
รายการชิงของรางวัลจุ๊กจิ๊กมักมีชื่อเราอยู่ในบรรดาผู้โชคดีเสมอ
ตั๋วหนัง บัตรเงินสด คูปองกินฟรี บัตรลดราคา สมุดโน้ต บัตรที่พักฟรี ฯลฯ
อาจไม่ได้ทุกครั้งที่ร่วมสนุก แต่ก็บ่อยเพียงพอที่คนรอบข้างจะโวยวายขำๆ ว่า ‘ได้อีกแล้วเหรอ !?’

ครั้งหลังสุดประมาณเดือนสิงหาคม ตอบคำถามกับเว็บไซต์ไทยรัฐออนไลน์ Thaitanium : Still Resisting

Thaitanium กับการเดินทางอันยาวนานบนถนนสายฮิปฮอป ฉลองครบ 10  ปี ด้วยการเปิดตัวอัลบั้ม “Still Resisting”  ซึ่งเป็นอัลบั้มคู่ที่บรรจุเพลงใหม่ทั้งหมดเอาไว้ถึง 22 เพลง โดยมีศิลปินที่มีชื่อเสียงทั่วฟ้าเมืองไทยมาร่วม Featuring เป็นจำนวนมาก

เล่นเอาสนุกแต่ก็คิดไว้ว่าถ้าได้ของมาจะให้เป็นของขวัญเพื่อนคนหนึ่งที่กรี๊ดวงนี้สุดๆ
(และเพื่อนคนนั้นก็เป็นคนช่วยบอกคำตอบที่ถูกต้องให้กับเรา)

ตอบคำถามไว้นานจนลืม
วันหนึ่งปลายเดือนกันยายน มีเบอร์ประหลาดรหัส 02 โทรเข้ามือถือ
เป็นหลายสายที่ไม่ได้รับเพราะประชุมเช้าจรดมืด
เราไม่ได้โทรกลับเพราะเห็นเป็นเบอร์สำนักงาน โทรไปหลังเวลาทำการคงไม่เหมาะ
แล้วก็ไม่ได้ใส่ใจมากเพราะคิดว่าอาจเป็นเจ้าหน้าที่ขายประกัน (ที่โทรมาอยู่เรื่อยๆ ไม่รู้เอาเบอร์เรามาจากไหน)

วันรุ่งขึ้นเบอร์ 02 โทรมาอีก
ขอที่อยู่และสำเนาบัตรประชาชนเพราะเขาจะส่งของมาให้
เรางงอยู่หลายวินาทีจนเขาพูดชื่อไทเทเนียม เลยถึงบางอ้อและนึกได้ว่าเล่นเกมไว้
ขอโทษคุณเจ้าหน้าที่สาวคนนั้นด้วยที่ต้องใช้เวลาโทรมาหลายรอบ
คุณเจ้าหน้าที่ใจดี บอกว่าตัดสินใจโทรหาเราอีกเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะปัดเป็นติดต่อคนถัดไป

ดีชะมัด
ครั้งที่ผ่านๆ มา ที่เราใช้ชีวิตรอดได้ก็ด้วยความช่วยเหลือจากคนรอบข้างทั้งที่รู้จักและไม่รู้จักนี่แหละ
ตอกย้ำเข้าไปใหญ่ว่าคุ้มค่าแล้วที่เราได้เกิดมาบนโลกนี้

เออ นะ
ทำอะไรแบบไม่คาดหวังนี่มันทำให้รู้สึกดีได้มากกว่าปกติจริงๆ

พัสดุไปรษณีย์ส่งมาถึงมือเราแล้ว Still Resisting (Limited Edition) พร้อมลายเซ็นสมาชิกทั้งสามของไทเทฯ ทั้งข้างนอกข้างในดูเรียบแต่เท่มาก แฟนเพลงตัวจริงไม่ผิดหวังเป็นแน่ บันทึกภาพเป็นหลักฐานไว้หน่อยก่อนส่งของเพื่อบำรุงขวัญและกำลังใจให้เพื่อนสาวผู้ห่างไกล ผู้ที่น่าจะได้เป็นเจ้าของตัวจริงของอัลบั้มอันทรงคุณค่านี้ (ให้ข้อมูลเกินไปนิด ที่จริงสาวเจ้าอยู่แค่สุพรรณบุรีนี่หละ)

Categories
Reminder

26

เป็นอีกหนึ่งวันธรรมดาที่มีความรู้สึกเกิดขึ้นหลากหลาย
อย่างไรก็ตามพอเรารู้เท่าทัน ก็เป็นความสุขอย่างหนึ่ง

ขอบคุณทุกคนมากๆ สำหรับคำอวยพร-คำไม่อวยพร-ความห่วงใยทั้งที่อยู่ในใจและที่แสดงออก
ทั้งเมื่อวาน วันนี้ พรุ่งนี้
อันที่จริงแค่ได้เจอ ได้รู้จักกัน ได้ผ่านมาพบแม้ผูกพันหรือไม่ผูกพัน
ล้วนเป็นของขวัญที่สำคัญกับชีวิตเรามากๆ แล้ว

ขอบคุณพื้นที่กว้างๆ นี้ด้วย
ที่ทำให้การแสดงออกถึงความห่วงใยมาถึงเราอย่างรวดเร็วล้นหลาม

ขอบคุณเตี่ย แม่ และน้องๆ
ที่ให้เราเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเบี้ยวๆ นี้มาตลอด

ขอบคุณใครก็ตามบนโลกใบนี้ที่คิดค้นคำว่า ‘ขอบคุณ’ ขึ้นมา
ไม่เช่นนั้นเราคงไม่รู้ว่าจะตอบแทนคำระลึกถึงและความปรารถนาดีของทุกคนอย่างไร

ขอให้สิ่งดีๆ เกิดขึ้นกับทุกท่านเช่นกัน =)

Categories
Delicious

หวานขมBitter Sweet BOYdPOD the short film

หมายเหตุ:
โพสต์นี้พิมพ์เก็บไว้ตั้งแต่ 2008/12/02
น่าจะเป็นวันหลังจากไปดูหนังเรื่องนี้มา (ด้วยบัตรฟรี)
คิดว่าตอนที่บันทึกเป็นฉบับร่าง คงตั้งใจเรียบเรียงอะไรเพิ่มเติมให้เป็นเรื่องเป็นราวกว่านี้
แต่จนแล้วจนรอดผ่านไปสองปีก็ยังไม่ได้ทำอย่างที่ตั้งใจแต่แรก (ช่างน่าเศร้ายิ่งนัก)
รู้ตัวอีกทีก็คิดจะลบทิ้ง เพราะคำที่ใช้มันเพี้ยนๆ แปลกๆ

ทันใดนั้นจิตใต้สำนึกขี้เสียดายของมากระซิบว่า ‘อย่าทิ้งเลย.. เสียดาย’
เป็นเหตุให้ตัดสินใจเผยแพร่โพสต์นี้
โดยท้ายที่สุดก็ไม่ได้พิมพ์อะไรเพิ่มเข้าไปเลยนอกจากแก้คำผิด คำขาดเกิน (เพราะนึกอะไรไม่ออกจริงๆ)
จึงขอเชิญทุกท่านอ่านบทความภาษาประหลาดๆ สมัยดิฉันยังวัยรุ่น ด้วยประการฉะนี้ เอย.

——————————————————————————————-

หวานขมBitter Sweet BOYdPOD the short film

โอย แค่พิมพ์ชื่อก็เหนื่อยละ
ไปดูมาแล้วค่ะ อิ่มมากๆ

แต่ละเรื่องเข้าใจได้ว่าแต่ละผู้กำกับฟังแต่ละเพลงของพี่บอยป๊อดแล้วเห็นอะไร
เหมือนว่าเนื้อหาทั้ง 13 ตอนจะไม่เกี่ยวกัน (แอบมีช่วงวันเวลา/วงจรชีวิตตัวละครเหลื่อมๆ ใกล้กันเหมือน4แพร่ง)
แต่มันร้อยเรียงกันให้ลงตัวได้อย่างน่าประหลาด
เป็น13เรื่องสั้นที่ต่อกันได้ เอิ่ม.. ได้ดี
(เอ๊ะ นับไปนับมาทำไมได้แค่ 12 ละเนี่ย -*-)

คนอื่นยังไงไม่รู้
แต่แนนแม่งดูแล้วซาบซึ้ง
มีตอนในดวงใจอยู่ 2-3 ตอน
และมีตอนเดียวมั้งที่รู้สึกว่าไม่ค่อยโอเค
ความรู้สึกภาพรวมหลังจากดูจบ ดี ถึงดีมาก

อาจเป็นเพราะชอบหนังที่ดูแล้วคิดตามได้ในแบบของเราว่ามันสื่ออะไร
ดูแล้วเออ ได้ทั้งอารมณ์จากภาพ อารมณ์จากเรื่อง แล้วนี้ยังมีแถมอารมณ์จากเพลงด้วย
(ไม่ใช่แบบอยากจะแกล้งคนดูอย่างเรื่องนั้นเรื่องพลอย)

ไม่จำเป็นต้องเคยฟังเพลงทุกเพลงในนั้นก็ได้ แต่ถ้าเคยฟังไปก่อนอาจจะอินมากกว่า (มั้ง)

ใครจะไม่ได้ไปดูในโรงหรือรอซื้อดีวีดี แนะนำว่าควรดูไล่ลำดับตั้งแต่เรื่องแรกจนสุดท้ายนะคะ
เพราะมีเรื่องลำดับเวลาความต่อเนื่องของตัวละครแต่ละตอนด้วย
ถ้าเลือกดูทีละเรื่องกระโดดข้ามไปมา อารมณ์อาจไม่ต่อเนื่องกัน
แล้วจะทำให้มองภาพรวมของหนังไม่ชัด
(แนนคิดว่านะ)

รอซื้อดีวีดีเก็บ ยิ้มน่ารัก