Categories
Delicious Reminder

ฝากไว้ในกายเธอ [สปอยล์แบบไม่เลวร้ายเท่าไหร่]

สนใจตั้งแต่เห็นตัวอย่างหนังและได้ฟังเสียงพิเศษของน้องวี วิโอเลต วอเทียร์ เพลงฝากไว้กลายเป็นเพลงหลอนโสตประสาทจนแทบจำทำนองเพลงดั้งเดิมของพี่เบิร์ดไม่ได้

พอหนังเข้าฉาย อ่านคอมเมนต์คนโน้นคนนี้ไปเรื่อยๆ ค้บพบว่าไปท่างด่ามากกว่าชม ..เอาแล้วไง จะเสี่ยงไม่เสี่ยง ลังเลเพราะไม่ชอบดูหนังผีแต่ดันอยากดูเรื่องนี้ แล้วพออยากดูคนก็บอกว่าห่วย เอาวะ ไปพิสูจน์ละกันว่าห่วยจริงไหม

ความสมจริงทางการแพทย์

– อ่านสปอยล์เรื่องความสมจริงทางการแพทย์ไปเยอะ ก็เก็บไปพิจารณาระหว่างดูหนังอยู่เหมือนกัน แต่การอ่านเยอะไม่ได้แปลว่าจะจำได้เยอะนี่หว่า เพราะฉะนั้น- ไม่รู้แฮะ ไม่มีคอมเมนต์เรื่องนี้ 555

– อ๊ะ มีสักหน่อย นึกขึ้นได้พอดีเรื่องอุปกรณ์ถ่างปากมดลูก (speculum) กระทู้หนึ่งในพันทิปให้ข้อมูลว่าสำหรับผู้ไม่เคยผ่านการคลอดบุตรต้องใช้ขนาดเล็กสุด (ไม่งั้น heeฉีก) เราคิดว่าความสำคัญของอุปกรณ์ชิ้นนี้ในฉากนี้คือการทำให้คนดู (ที่ส่วนใหญ่อาจไม่ได้อยู่ในวงการแพทย์/ไม่ได้มีชีวิตผูกพันกับอุปกรณ์แผนกสูติฯ) ได้เห็นสิ่งของชิ้นนี้ชัดเจน คือให้อุปกรณ์นี้มัน “เข้าตา” คนดู เห็นแล้วเอ๊ะ/อ๋อ สำหรับเราแค่นี้พอละ (ขอบคุณกระทู้นี้ด้วยที่ทำให้เราได้ทำความเข้าใจหลักการแพทย์บางอย่างไปก่อนดูหนัง)

นักแสดงนำ

– รู้แค่ว่าสามคนนี้คือฮอร์โมนนะ วัยว้าวุ่นนะ ดังนะ แต่ถามว่าเคยดูไหมฮอร์โมน ไม่เค้ย (เฮ้ย มีคนไม่เคยดูฮอร์โมนอยู่ในประเทศโลกนี้ด้วยเรอะ!) แค่อ่านผ่านตามาบ้างทางทวิตเตอร์และเฟซบุ๊ก ส่วนที่พอจะได้ดูออนไลน์นิดหน่อยก็เป็นตอนคู่จิ้นเลสเบี้ยนช่วงฉิ่งเปื้อนเลือด เราจึงไม่มีภาพติดตาว่าน้องไผ่ สไปรท์ ภู เคยเป็นแบบไหนมาก่อน ดังนั้นจึงง่ายมากสำหรับเราที่จะไม่คาดหวังแอคติ้งหรืออารมณ์ที่ส่งมาสุดทางแบบสุดๆ

– เราคิดว่านักแสดงที่ประสบการณ์ประมาณนี้ อยู่ระหว่างทดลองบทบาทที่น่าสนใจไปเรื่อยๆ กำลังพัฒนาตัวเองในขั้นเริ่มต้น (นอกเรื่อง–ได้อ่านบทสัมภาษณ์ของน้องสามคนในนิตยสารแจกฟรีบนรถไฟฟ้า รู้สึกจะชื่อ DON’T อะไรนี่แหละ แต่ละคนมีวิธีคิดเท่ๆ เป็นตัวของตัวเอง) การส่งอารมณ์ให้หนังได้ประมาณ60เปอร์เซ็นต์ก็ถือว่าสอบผ่าน (ส่วนจะได้เกรดเท่าไหร่อีกเรื่องนึง) เห็นท่าแล้วคิดว่าน้องดีงามขั้นพื้นฐาน ยังพัฒนาได้อีกเยอะ

บทหนัง

– เสียดายที่บทหนังให้พื้นที่กับน้องไอซ์น้อยไปหน่อย เราได้ทำความรู้จักเพิร์ธเยอะที่สุดในเรื่อง มีท่าทีครุ่นคิด อยากเอาชนะ เก็บงำความรู้สึกแต่แสดงออกชัดเจนเรื่องความต้องการทางเพศ คล้ายๆ เป็นเครื่องมือในการปลดปล่อยบางอย่างในตัวเอง เราเห็นความดุดันของแทน ความต้องการปกป้องคนรัก (แม้สุดท้ายเขาจะเลิกรักเราแล้ว) ความมุ่งมั่นที่จะแก้แค้น แต่เราได้รู้จักไอซ์น้อยเหลือเกิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพอมาเป็นผีน้องไอซ์ เธอช่างหลอกหลอนไร้ทิศทาง ไม่มีจุดเด่นเอาเสียเลย

– คิดไปคิดมา หรือผู้กำกับ/คนเขียนบทจะตั้งใจให้ผีน้องไอซ์ไร้จุดเด่นแบบนี้แหละ? เพราะผีไอซ์คือผีในใจเพิร์ธ? ความหลอนในเรื่องทั้งหมดอาจมาจากมโนของเพิร์ธ?

– สรุป อิเพิร์ธควรไปพบจิตแพทย์นะ!

ค้างคา

– เพิร์ธไม่โดนลงโทษ ไม่ได้รับการเยียวยารักษาอาการทางจิต ไม่แม้กระทั่งจะมีใครแสดงออกว่าสัมผัสความผิดปกติบางอย่างได้–ออกตัวแรงๆ เลยว่าไม่ได้ต้องการแฮปปี้เอนดิ้งดีงามโลกสวย ทุกอย่างกระจ่างแจ้ง ไม่ได้ต้องการแบบนั้น แค่ไม่ชอบใจที่คนทำไม่ถูกต้องลอยนวลไปเบาๆ ฆ่าคนแล้วอำพรางไปเรื่อยๆ ทั้งที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจ (ผลร้ายท้ายที่สุด ความหลอนก็ตามติดเพิร์ธไปตลอดชีวิต มันก็ใช่ แต่ทางสังคมเพิร์ธก็ควรได้รับผลตอบกลับจากการกระทำบ้าง ไม่ใช่ตำรวจไม่ได้ร่องรอยอะไรเลย วู้ว เราว่าน่าจะจับผิดการเก็บรวบรวมพิสูจน์หลักฐาน/กระบวนการชันสูตรมากกว่าจับผิดเรื่องการแพทย์อีกนะ 555)

– ไม่คลี่คลายเรื่องแม่ไอซ์ (คนนี้ในเรื่องก็ทำตัวหลอน –มีคนมาเจอมั้ย หรือยังไง บ้านนี้ไร้ญาติขนาดนั้นเลยเรอะ)

– เพลงฝากไว้ ได้ฟังทีเดียวท้ายเรื่อง รู้สึกไม่อินเท่าเก่า เสียดายของดีโผล่มาให้ฟังทีหลัง

ขอบคุณ

– คุณบูผู้มีอุปการคุณ ทั้งเรื่องนี้และเรื่องหน้า

ป.ล. ไม่เกี่ยวกับทั้งหมดที่กล่าวมา

– คิดถึงอีกแล้ว #พฤหัสบายดี

 

Categories
life shot Reminder

พฤหัสบายดี

เปิดเฟซบุ๊กมาเจอนี่

การกลับมาของ Thursday Project

 

ก็เลยคิดถึงนี่

‪#‎พฤหัสบายดี‬ 

 

วันนี้เอา #พฤหัสบายดี แบบฉบับแนนซ่า คือเริ่มจากง่ายๆ ก่อน

เราสบายดี รู้ตัวทั่วพร้อม ตื่นนอนมาด้วยความตั้งใจอยากทำงาน และกำลังทำอยู่ เดี๋ยวเสร็จจากการแว้บมาเขียนบล็อกเล็กๆ น้อยๆ นี้แล้วจะทำงานต่ออย่างจริงจัง เป็นความตั้งใจทำและรับรู้ปัจจุบัน

 

เจอกันใหม่พฤหัสหน้า =)

Categories
Delicious

The Fault in Our Stars

โปสเตอร์ที่เป็นรูปถ่ายแบบ 69 นี่ไม่ค่อยยุติธรรมเท่าไหร่ ทำให้เราเห็นหน้านักแสดงได้ไม่เท่ากัน ที่ผ่านมาเห็นแต่หน้านางเอกบนโปสเตอร์ จนพบว่าการติดโปสเตอร์กลับหัวของโรงหนังที่ไหนสักแห่ง (อาจจะที่ terminal 21 มั้ง จำไม่ได้แล้ว) ทำให้เราเห็นหน้าตาพระเอกชัดขึ้น เป็นความพลาด (หรือตั้งใจ?) ที่ส่งผลแง่บวก คือมีแรงจูงใจให้รู้สึกอยากดูขึ้นมาอีกนิด แหม่ แหม่ แหม่

บันทึกสิ่งแรกๆ ที่ผุดขึ้นในหัวระหว่างดูหนัง

– อยากอ่านหนังสือเล่มนี้
– อยากอ่านบันทึกของแอนน์ แฟรงก์
– อยากไปอัมสเตอร์ดัมอีกรอบ เก็บรายละเอียดพิพิธภัณฑ์ต่างๆ และเดิน เดิน เดิน
– เราทั้งหลายควรเตรียมตัวให้พร้อมตายเอาไว้เสมอ คราวละเล็กละน้อยก็ยังดี

ขอบคุณคุณเมษ์ทิวาที่แนะนำให้รู้จักหนังสือเรื่องนี้ ไม่เช่นนั้นเราคงไม่สนใจหรือใส่ใจอยากดูหนัง เพราะเราไม่เคยเห็นโฆษณาใดเกี่ยวกับหนังมาก่อน จนกระทั่งบังเอิญไปเจอเพจบนเฟซบุ๊ก แถมดูตัวอย่างหนังแล้วก็งั้นๆ คือรู้สึกธรรมดา นี่ถ้าไม่ใช่เพราะเชื่อในคุณเมษ์ทิวา ไม่อยากดูนะเอาจริงๆ

ขอบคุณ naloon.com สำหรับรางวัลตั๋วฟรี (ได้บัตรสำหรับตัวสำรอง) ที่จริงต้องขอบคุณผู้ได้รับรางวัลตัวจริงที่สละสิทธิ์ ไม่งั้นเราคงไม่ฝืนชะตากรรมการปวดท้องเมนส์ไปดูถึงเอสพละนาด

สรุป
The Fault in Our Stars ดีงามตามท้องเรื่อง หนังสือต้นฉบับเป็นไงไม่รู้ แต่หนังนี้ควรค่าแก่การดู เพลงประกอบหนังควรค่าแก่การฟัง เป็นความหดหู่ที่สวยงามในตัวมันเอง (นี่ยังนั่งหดหู่อยู่เลย ขนาดเตรียมใจไปประมาณนึง)

ฟังเพลงไหม

Categories
life shot Mumble

ชายหนึ่งหญิงหนึ่ง

ชายหนึ่งหญิงหนึ่ง
สองคนนั่งจ้องจอ
ชายพิมพ์หญิงพิมพ์
ต่างคนต่างพิมพ์ต่างมองจอ
เป็นแบบนี้แทบทุกคืน
ไม่น้อยกว่าคืนละหนึ่งชั่วโมง
ต่างคนต่างจ้อง มองคนละจอ

และทุกคืนที่เป็นเช่นนี้
บางทีหญิงหนึ่งรู้สึกถึงประกายสีขาว
หญิงหนึ่งเงยหน้าขึ้นดู
เห็นชายหนึ่งนั่งยิ้มยิงฟัน
ชายหนึ่งยิ้มกับจอ

เห็นดังนั้น
หญิงหนึ่งนึกขำในใจ
เผลอยิ้มให้กับชายหนึ่ง
ยิ้มกว้างกว่าเขาเสียอีก

รู้สึกถึงอะไรบางอย่างเคลื่อนไหว
ชายหนึ่งเอะใจหันมอง

หญิงหนึ่งยิ้มให้ชายหนึ่ง
ชายหนึ่งยิ้มให้หญิงหนึ่ง
ต่างคนต่างยิ้มให้กัน
จบ.
=) =)

Categories
Delicious

Dallas Buyers Club ความพยายามที่จะมีชีวิตอยู่

 

dallas-buyers-club-2013-03

ไปดูเรื่องนี้เพราะอยากดูหนัง –ในวันเบื่อเซ็งซังกะตายวันหนึ่ง
และเพราะ “ได้ข่าว” จากคนใกล้ตัวว่าเป็นหนังน่าดู เข้าชิงรางวัลต่างๆ ในปีนี้
แต่ไม่รู้หรอกว่าเกี่ยวกับอะไร
รวมถึงไม่ได้พยายามค้นหาข้อมูลอันใด
จึงเข้าโรงหนังแบบว่างๆ คือไม่ได้พกความคาดหวังเข้าไปด้วย –สรุปสุดท้ายคือได้พลังชีวิตกลับมาเพียบ

ความพยายามที่จะมีชีวิตอยู่ของคนคนหนึ่ง
นำไปสู่การทำมาหากินหาเงินเลี้ยงปากท้อง (ขอไม่ถกถึงความถูกต้องเชิงกระบวนการหรือแง่มุมศีลธรรม)
นำไปสู่การพิสูจน์ว่าคนเรามีสิทธิที่จะเลือกและเราควรเคารพสิทธินั้นของกันและกัน ตราบใดที่การเลือกนั้นไม่เบียดเบียนสิทธิของใคร

ในความแตกต่างทางเพศ ในคำว่า “เบี่ยงเบน” มีความพยายาม
พยายามที่จะเป็นตัวของตัวเอง
พยายามที่จะยอมรับความเป็นตัวของตัวเองนั้น
ในสังคมยุคที่ “การยอมรับ” ความต่าง (ในแง่หนึ่งคือความผิดแปลก) เป็นไปได้ยาก
กลุ่มเพศที่สามจึงต้องใช้ความพยายามและความอดทนมาก –มาก –มาก

ฉากที่เราชอบเป็นพิเศษคือฉากกอด
พระเอกกอดกับนางเอกเบอร์ ๑ (ในใจเรา) ที่ทำงานร่วมกันมานาน
การกอดนั้นกระชับ ส่งความรู้สึกมากมายถึงกัน ความรัก คำขอบคุณ ถูกส่งถ่ายไปมาในการกอดของคนสองคน มิตรภาพช่างเป็นพลังผลักดันที่งดงาม

Ron offers Rayon a hand shake. Rayon opens his arms. They hug. Ron whispers a heartfelt, thank you
Ron offers Rayon a hand shake. Rayon opens his arms. They hug.
Ron whispers a heartfelt, thank you.

Eve and Ron

พระเอกกอดกับนางเอกเบอร์ ๒ (แม้ในเรื่องจะไม่ได้แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์เชิงชู้สาวว่าก้าวไปถึงขั้นไหน)
ความห่วงใย ความเข้าใจ ส่งและรับกำลังใจจากกันและกันในวันที่เพื่อนของทั้งสองคนจากไป เออเนอะ บางครั้งที่เรากำลังแย่ แค่การกอดแน่นๆ สักครั้งก็เติมพลังให้เราได้ (เสียดายหาภาพฉากกอดฉากนี้ไม่เจอ) แปะประโยคของรอน วู้ดรูฟไว้เป็นที่ระลึกก่อนก็แล้วกัน

A nice, warm hug… and a day of watchin’ some bullridin’, that’s what you need, doctor Woodroof’s order.

 

ขอบคุณภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต (คลิกแต่ละรูปเพื่อเข้าไปดูภาพต้นฉบับได้จ้ะ)