Categories
Mumble

พลาด

ความลับ
เรื่องที่เราไม่อยากให้ใครรู้
โดยเฉพาะ “ใคร” คนที่เป็นตัวละครหลักในเรื่อง

ถ้าวันนึงเราประมวลได้ว่า
“ใคร” คนนั้นคงจะรู้แล้ว
ถึงจะไม่ทั้งหมด
แต่ก็พอเข้าใจเรื่องที่เป็นความลับนั้นได้

เราควรทำยังไง

ทำตัวตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
อธิบายว่าที่เค้าเข้าใจ ความจริงคืออะไร
ไม่ต้องสนใจเพราะที่จริงก็ไม่แน่ว่าเค้าจะรู้หรือไม่รู้
หายไปจากชีวิตเค้าเลย

ไม่มีคำตอบ
ที่ทำอยู่ตอนนี้คือเสียใจ

แต่ไม่ได้ฟูมฟาย

แค่อารมณ์หม่นๆ ชั่วระยะหนึ่ง
พรุ่งนี้อาจจะหาย
ถ้าพรุ่งนี้ไม่หาย ก็คงเป็นวันมะรืนนี้
ถ้ามะรืนนี้ไม่หาย คงเป็นวันถัดไป
อาทิตย์ถัดไป
เดือนถัดไป

ไม่นานนักหรอก
เรื่องไร้สาระแค่นี้เดี๋ยวก็หายไปจากความทรงจำ
แนนลืมง่ายจะตาย

Categories
Mumble

บ๋าย บาย วนัสนันท์

นับถอยหลังให้ชื่อวนัสนันท์
วันที่ 12 พฤษภาคมนี้ ต้องไปเปลี่ยนชื่อ
เสียใจจัง

วนัสนันท์คนที่1
นี่แนนเป็นเจ้าของตัวเองจริงหรือเปล่า เราเกิดมาโดยพ่อแม่ เพราะฉะนั้นคนที่เป็นเจ้าของเราคือพ่อแม่งั้นสิ
ไม่ได้กำลังประชด แค่ตั้งคำถามเฉยๆ ดูเหมือนแนนเป็นลูกอกตัญญูมากขึ้นทุกทีเพราะเรื่องทำนองนี้

ความหวังดีที่ใครต่อใครยื่นให้ ถ้ามันทำให้เรารู้สึกไม่สบายใจเราควรจะจัดการยังไงนะ
– รับไว้และกล่าวขอบคุณ
– บอกปฏิเสธอย่างนุ่มนวล พร้อมเหตุผลที่เหมาะสม
– บ่ายเบี่ยง ไม่สนใจ เดี๋ยวก็ลืมไปเอง

คำตอบของแนนไม่ได้อยู่ใน 3 ตัวเลือกข้างบน
แนนบ่ายเบี่ยงไม่สนใจไม่ได้ เพราะแม่ไม่ลืมง่ายๆ หรอก เรื่องแบบนี้ (ดวงชะตา บุญบารมี ชีวิตที่ดีขึ้น)
แนนปฏิเสธไปแล้ว แต่คงให้เหตุผลที่หักล้างกันไม่สมบูรณ์ เพราะฉะนั้นการปฏิเสธเป็นโมฆะ
สุดท้าย…
แนนรับไว้ แต่ไม่ได้กล่าวขอบคุณ
เป็นการตอบรับแบบจำยอม

หลังจากเปลี่ยนชื่อแล้ว ถึงจะทำให้ชีวิตแนนดีขึ้นหรือไม่ สิ่งที่จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนคือแนนไม่มีความสุขกับชื่อใหม่

วนัสนันท์คนที่2
แค่ชื่อจริง เปลี่ยนไปก็ไม่เห็นเป็นอะไร
เพราะไม่ว่าเราชื่ออะไร เราก็ยังเป็นเราอยู่ดี

ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่เราชื่อวนัสนันท์
เพราะเราเป็นแค่ก้อนเนื้อ(ใหญ่ๆ)ก้อนหนึ่งที่บังเอิญมีคนเรียกวนัสนันท์
ถ้าวันนึงเค้าจะเปลี่ยน ไม่เรียกเราในชื่อเดิม ก้อนเนื้อก้อนนี้ก็ไม่ได้มีอะไรต่างไปจากเมื่อวาน
(ลอกมาจากเอห์ ที่บอกว่าเอามาจากพี่แอนอีกที)

เพราะฉะนั้นปัญหาคืออะไร?
– เราไม่ยอมรับความเปลี่ยนแปลง
– เราปล่อยให้เรื่องไม่เป็นเรื่องมารบกวนจิตใจ
– หรือไม่ใช่เลยซักอย่าง เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหามาตั้งแต่แรก

แล้วเราจะกังวลไปทำไม?
ทำเพื่อแม่ซักอย่างจะเป็นอะไรไป แม่สบายใจเราก็น่าจะดีใจนะ

วนัสนันท์คนที่3
แม่สบายใจแต่เราไม่มีความสุข แบบนี้ก็เรียกว่าเป็นเรื่องดีและควรจะเป็นใช่ไหม?
เพราะเราต้องทำตัวเป็นลูกที่ดีและกตัญญู ใช่ไหม?

วนัสนันท์คนที่4
ชื่อ ส่งผลกับชะตาชีวิตขนาดนั้นจริงๆ เหรอ
ก่อนหน้านี้เมื่อหลายปีที่ผ่านมา
แม่ดูดวงและพระท่านทักว่า คนในบ้านต้องเปลี่ยนชื่อกันทั้งหมด เพราะชื่อไม่เหมาะกับดวงชะตา
(หรืออะไรทำนองนี้) ทำให้ทุกคนต้องเปลี่ยนชื่อ ยกเว้นแนน
พระท่านบอกว่า แนน ชื่อวนัสนันท์ เหมาะแล้ว

แม่ เตี่ย นัท นิว ทุกคนเปลี่ยนชื่อจริงกันหมด
คำถามของแนนคือ ชีวิตหลังเปลี่ยนชื่อดีขึ้นจริงหรือเปล่า

แม่กับเตี่ย
ก็ยังเหมือนเดิม ทะเลาะ เถียง รายจ่ายเยอะกองสูงกว่ารายได้ไม่รู้กี่เท่า

นัท
เรียนไปตามปกติ สอบเข้าที่ลาดกระบังได้เพราะความสามารถตัวเอง แนนมั่นใจว่าไม่ได้เป็นเพราะการเปลี่ยนชื่อ
และล่าสุด นัทรถคว่ำ เข้าโรงพยาบาล ด้วยความประมาทของใครก็แล้วแต่ในเหตุการณ์นั้น

นิว
จบ ปวช. ด้วยเกรดเฉลี่ยต่ำลงกว่าทุกเทอม นั่นก็เพราะนิวไม่ได้ทุ่มเทกับมันอย่างเต็มที่…
ข้อนี้แนนไม่ได้กล่าวหา เพราะนิวเองก็รู้ตัวและพูดเรื่องนี้กับแนนเอง
จากนั้นไม่ได้อยากอ่านหนังสือเตรียมเอ็นท์ แต่อยากเรียนมหาวิทยาลัย เพราะฉะนั้นผลที่ได้ คือมหาวิทยาลัยเอกชน
แต่นิวก็มีชีวิตอยู่แบบเป็นตัวเองดีนะ
คือ ไม่ได้มีความต้องการมากมายขนาดนั้น ยังไงก็ได้น่ะ

อะไรกันที่ดีขึ้นหลังเปลี่ยนชื่อ
สภาพจิตใจของแม่ละมั้ง (แน่ใจเหรอว่านี่ไม่ได้ประชด ไอ้ห่าแนน -*-)

ยังไงต่อดี…
เหมือนว่าครั้งนี้คนที่ต้องเปลี่ยนชื่อไม่ใช่แนนคนเดียว
คล้ายๆ แม่จะพูดว่า นัทต้องเปลี่ยนวันพฤหัส (หรือวันไหนซักวันหนึ่ง) เพราะพ่อหมอท่านบอกว่าเป็นวันดีสำหรับเค้า
แนนต้องเปลี่ยนวันจันทร์ที่ 12 ด้วยเหตุผลเดียวกัน

ถ้าครั้งนี้ไม่ได้เปลี่ยนชื่อ ตลอดปีจะมีแต่เรื่องไม่ดีเข้ามา
เอ้อ… ไม่อยากพูดแบบนี้เลย แต่ไม่เกรงใจละนะ
อย่างกับที่ผ่านมาแนนมีแต่เรื่องดีๆ ในชีวิตงั้นแหละ
ทุกคนก็มีเรื่องดีเรื่องแย่กันได้ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด การเปลี่ยนชื่อจะทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไปได้จริงงั้นเหรอ

ถ้าเป็นแบบนั้น เมื่อไหร่ที่เราแย่เราก็เปลี่ยนชื่อซะ ทุกอย่างก็จะคลี่คลายงั้นสิ
(บ้าไปแล้ว)

หยุดไว้แค่นี้แหละ
จะเป็นคนไม่ดีมากเกินไปแล้วแนน

สรุป
วันจันทร์เจอกัน จะไม่มีวนัสนันท์แนนอีกแล้ว
เย่ๆ แย่ๆ

เอ้อ… เมื่อกี้มีปิ๊งแว้บ
เปลี่ยนชื่อก็เปลี่ยนไป แต่แนนจะไม่ใช้ชื่อใหม่ 555+
รอปีหน้า จะไปเปลี่ยนกลับมาเป็นวนัสนันท์เหมือนเดิม 555+

สบายใจขึ้นยังวะเนี่ย -*-

วนัสนันท์คนที่5
เฮ้ย แม่เค้าทำเพื่อแกนะเว้ย
ทุกอย่างที่วุ่นวายอยู่เนี่ย แม่เค้าหวังดีกับแกนะเว้ย

วนัสนันท์คนที่4
โอเค ทุกอย่างคลี่คลาย จบ.

วนัสนันท์คนที่5
เฮ้ย ขำๆ น่า
ซีเรียสอะไรนักหนา

เถียงกันทำไมเนี่ย
-แนน วนัสนันท์-

Categories
Mumble

ลดน้ำหนักอย่างตั้งใจ วันที่7: เส้นชัยเล็กๆ

แฮะๆ
จะทำเป็นเนียนลืมก็ละอายใจ
แจ้งผลซะหน่อยละกันเนาะ

อาทิตย์ 27 เมษายน 2551
วันที่ 7 –สุดท้ายของโปรแกรมลดน้ำหนัก

เช้า
ข้าวสวย 1 ทัพพี กับไข่ต้ม 1 ฟอง
โฮ้ย… มันสุดยอดของความอร่อยเลยครับพี่น้อง
ไม่ได้กินข้าวสวยมา 6 วันเต็ม

กลางวัน
เกาเหลาลูกชิ้น 1 ชาม
แว้บไปหากินที่เซ็นทรัลลาดพร้าว
จากเกาเหลาลูกชิ้นแนนพยศเป็น สุกี้น้ำ-ไก่-ไม่ใส่วุ้นเส้น
ผักเยอะกว่าเกาเหลาอีกมั้ง
แถมไก่เค้ายังหมักมาอย่างดี นุ้มนุ้ม~

เย็น
สับปะรด 1 ชิ้น
ทำร้ายจิตใจชะมัดเลย -*-
อ่อ แต่แนนก็ดื้อ กินสับปะรดไปครึ่งชิ้น ต่อด้วยแอปเปิ้ลเขียว 1 ลูก

คงจะผอมหรอก -*-

โห่ฮิ้ว~
7 วันแห่งการควบคุมอาหาร ผ่านไปอย่างทุกลักทุเล
ตอนเย็นเดินเข้าบ้านวายไอวาย (ออฟฟิศ–ที่เดียวกัน) มีพี่ๆ น้องๆ แก๊งนึงนั่งคุยงานกันอยู่
ซีน่า (เพื่อนรุ่นน้องที่ไม่ได้เจอกันเกือบเดือน) ทักว่า พี่แนนผอมลง

โฮ้ย… อยากจะกระโดดกอดสักหลายๆ ที
แนนไม่ถามด้วยนะว่าพูดจริงหรือล้อเล่น
หรือที่จริงมีคนจ้างให้พูด
ณ จุดนั้นไม่สนใจอะไรแล้ว 555+
เท่านี้แหละ พอใจสุดๆ ละ

อ่า เกือบลืมเรื่องสำคัญ
น้ำหนักสุทธิตอนนี้
เหมือนว่าจะหนัก 64 กิโลนะ
ต้องใช้ “เหมือนว่า” เพราะตาชั่งมันแปลกๆ
ตอนที่แนนชั่ง เข็มน้ำหนักมันเริ่มที่ 1 ก.ก. แทนที่จะเป็น 0 ก.ก.
และชั่งออกมาได้ 65 เลยอนุมานเอาเองว่าเป็น 64

เอาวะ
สรุป 7 วันลด 2 โล? กร๊ากๆ

จะว่าไปพอน้ำหนักลด
ส่วนต่างๆ ของร่างกายเล็กลงนิดหน่อย (จริงๆ)

แต่พุงไม่ลด ฮือๆ~

อาทิตย์นี้กินได้ตามปกติแล้ว
ฉลองด้วยการซื้อโรลเลอร์โคสเตอร์สีน้ำเงินแสนอร่อย มากินพรุ่งนี้เช้า 555+
ต้องกินตอนเช้านะ เผลอเหลือไปกินเย็นๆ มืดๆ จะแย่

หลังจากนี้หมายมั่นปั้นมือว่าจะไม่กินน้ำอัดลม
(ทำตามพี่แอน พอใช้วิธีนี้ลุงแกซูบลงไปเยอะเหมือนกัน *-*)

และจะไปออกกำลังกาย ซักอาทิตย์ละ 2 ครั้ง
(ไหวมั้ยไม่รู้ ตั้งเป้าไว้ก่อน มี พี่อุ๊ เป็นแกนนำ พี่เป๊ะเป็นหน่วยสนับสนุนอุปกรณ์)

และจะซิตอัปลดพุง (ยากสุดแล้วเนี่ย อี๋~)

โอ๊ยเยอะ
พิมพ์เสร็จแล้วเพิ่งจะรู้สึก -*-

ป.ล.
ในอนาคตถ้าต้องกลับมาใช้สูตรลดน้ำหนักอีก
จะเลือกใช้สูตร 3 วันของเจ๊โบว์ 555+

ขอบคุณทุกคนที่ช่วยเหลือ ผลักดัน แบ่งปันกำลังใจ แถมให้คำแนะนำด้วย
ถามอ่านแบบมีบทสนทนาโต้ตอบได้ที่ฟ๐นต์ำฟอรั่มจ้ะ

Categories
Mumble

ลดน้ำหนักอย่างตั้งใจ วันที่6: ใกล้ความจริง

26 เมษายน 2551
วันที่หก ใกล้ความจริงเข้ามาทุกที

เช้า
น้ำผลไม้คั้น 1 แก้ว
(แนนกินน้ำผลไม้รวม 100 เปอร์เซ็นต์อะไรซักอย่าง กล่องนึง)
ก่อนออกจากบ้านกล้าๆ กลัวๆ ชั่งน้ำหนัก
โล่งใจแทบตาย น้ำหนักไม่ขึ้น (แต่ก็ไม่ได้ลดลงอีก)


กลางวัน

ปลาเผาหรือปลานึ่งไม่จำกัดจำนวน
ไม่มีเวลาหาปลาเผา เพราะอยู่ในโรงบาล และอดทนจนบ่ายไม่ไหว
แนนกินเกาเหลาเย็นตาโฟไปซะงั้น
(ที่จริง ไม่ใช่ปลาก็แทนกันไม่ได้หรอก)

ช่วงกลางวันนี่สับสนมาก
คือ ไปเยี่ยมพี่อุ้ย (ผ่าไส้ติ่ง) ที่โรงพยาบาลพญาไท2
พี่แอน เจ๊โบว์ หมอแมว ไปด้วย
เจ๊โบว์กล่อมให้เลิกกินใหญ่เลย 555+
บอกว่า สูตร7วันมันดีไม่มาก มากินสูตร3วันกะเจ๊ดีกว่า
อีกอย่าง เมื่อวานแนนกินหมูกะทะไปหน่อยนึง
ก็เหมือนเวลาถือศีลแล้วทำผิดอย่างนึง ก็เท่ากับผิดศีลทั้งหมด

ที่จริง เจ๊โบว์(และพี่แอน) ก็พูดถูก
สูตร 7 วันอะไรนี่ ที่ผ่านมาก็ไม่ได้เข้มข้นตามสูตรเป๊ะๆ
อาศัยไม่กินอะไรจุบจิบระหว่างมื้อ และกินน้ำตอนที่อยากกินของอร่อย (ที่คนอื่นกำลังกินอยู่)
แต่ยังไงก็เริ่มมาจนวันที่ 6
ไม่อยากให้อะไรหยุด ตัดมันทิ้งไปกลางคันทั้งๆ ที่ใกล้ถึงปลายทาง
อยากลองพยายามทำอะไรให้ถึงที่สุดซักครั้ง
(กะอีแค่ลดน้ำหนัก7วัน ทำยังกะเป็นเรื่องยิ่งใหญ่มหาศาล 555+)

เย็น
ตามกำหนดคือ นมสด 1 แก้ว
อันนี้แย่สุด เพราะแนนไม่กินนมสด–มันเหม็นคาวมาก อี๋ๆ~
มื้อนี้แทนด้วยส้มตำปู 1 จาน (และดันกินตอนสามทุ่ม)
เฮ่อ~ ไอ้อ้วนเอ๊ย


สรุป

วันนี้เรื่องอาหารล้มเหลว (มื้อเช้ามื้อเดียวที่ตรงเสป็ค)
แต่ไม่กินอย่างอื่นนอกมื้ออาหาร
ก็พอกล้อมแกล้มได้บ้างแหละมั้ง
ฮ่าๆๆ ฮือๆๆ ฮ่าฮือ ฮ่าฮือ (เสียงหัวเราะทั้งน้ำตา)

Categories
Mumble

ลดน้ำหนักอย่างตั้งใจ วันที่5: ไม่แสดงตัว

25 เมษายน 2551
วันนี้วันที่5แล้ว โย่ๆ

น้ำผลไม้ที่รอคอยเป็นอันยกเลิก
เพราะตื่นสายมาก เลยเวลากิน

ส่วนมื้อเที่ยง
ส้มตำ 1 จาน ไก่ย่าง 1 ชิ้น
พิสูจน์ได้อีกครั้งว่าร้านส้มตำปากซอย(ลาดพร้าว21)อร่อย *-*
แต่ไก่ย่างถูกเปลี่ยนเป็นไก่ทอด 1 น่องเพราะที่ร้านไม่ได้ย่างไก่
T-T เอาเถอะน่า อย่าเสียใจไปเลย เพราะยังไงมันก็อร่อยมากหละนะ

ป.ล.
ชั่งน้ำหนักเมื่อคืน
เหลือประมาณ 64.8 อ้ะ
(4 วันลดได้ 1.2 โลเอง)


มื้อเย็น
ตามหลักคือ สลัดผัก
แต่วันนี้มีเรื่องนอกเหนือการควบคุม
เพราะแนนมีนัดกับอาจารย์และเพื่อนสมัยเรียนที่ศิลปากร
ไม่ไปก็ไม่ได้ นัดไว้ตั้งแต่ต้นเดือนนู่น
และเค้าจะไปกินหมูกะทะกัน -“-

พอไปถึงร้าน
แนนไม่ได้บอกใครเลยว่าเข้าโปรแกรมลดน้ำหนักอยู่
(กลัวอาจารย์ซักละเอียด เลยเงียบๆไว้)
แรกๆ ก็กินผักลวก
หลังๆ เพื่อนเริ่มคีบหมูคีบไก่ใส่จานให้
เราก็อดไม่ได้ (และยังขี้เกียจบอกเพื่อนเรื่องลดน้ำหนัก)
จำใจกินอย่างเจ็บปวดและมีความสุขไปพร้อมกัน

ถ้านับชิ้นก็ 10 กว่าๆได้มั้ง
หมดกัน ที่สะสมมา T-T
แต่ว่า ยังไงอีก 2 วันที่เหลือก็จะทำตามโปรแกรม

ผลสุดท้ายออกมายังไง วันจันทร์รู้กัน
หวังว่าน้ำหนักคงไม่ขึ้นเพราะหมูกะทะ 10 (กว่า)ชิ้นวันนี้นะ -/|\-