จะออกไปซื้อของเข้าออฟฟิศ
นึกอยากกินไอติม
แต่ก่อนจะมีขาประจำชวนไปกินไอติมด้วยได้อยู่จำนวนหนึ่ง
พี่อุ้ย
พี่เก๋
พี่อุ๊
พี่เป๊ะ (เจ้านี้ไม่กินเอเต้, จะกินต้องสเวนเซ่น)
วันนี้ที่บ้านมีแต่พี่มะเดี่ยว ปาล์ม(ที่ต้องกลับบ้านเร็ว) พี่โป้ง
ชายหนุ่มกำลังเตรียมชุดอาหารยอดข้าว
อย่าหวังว่าชวนแล้วจะไป เป็นไปไม่ได้สองร้อยเปอร์เซ็นต์ หมอไหนก็ไม่ต้องคอนเฟิร์ม เราคอนเฟิร์มเอง
พี่เก๋ พี่อุ๊ พี่เป๊ะ ไม่อยู่แถวนี้ –ชวนไม่ได้
พี่อุ้ย เดาว่าอยู่เมืองนอกแล้วแหละ เพราะมีโปรแกรมไปช๊อปปิ้งตั้งแต่ก่อนเหตุการณ์ปิดสนามบิน –แต่ก็ไม่แน่
โทรหาพี่อุ้ย
อยู่ฮ่องกงจริงด้วย
บอกพี่อุ้ยว่า อยากกินไอติม ไม่มีคนไปกินเป็นเพื่อนเลย
พี่แกหัวเราะ
ฮ่าๆ
เราก็เขินๆ นึกในใจอยู่ว่าเรื่องแค่นี้ต้องเดือดร้อนพี่แกด้วยเหรอ
พี่อุ้ยถามว่าอยากได้อะไรไหม
แนนอยากได้ของหลายอย่างจัด นึกไม่ออก
(อารมณ์แบบว่า ปกติไม่อยากได้อะไร แต่พอมีคนถามว่าอยากได้อะไรไหมจะซื้อไปฝาก –เนี่ยๆ แบบเนี้ยทำให้เราพยายามนึกหัวแทบแตก)
ไม่อยากได้อะไร
อยากกินไอติมกับพี่อุ้ย
วางสายปุ๊บ เหงาปั๊บ
ยิ่งพอเพื่อนเราในเว็บบอร์ดพิมพ์อะไรบางอย่างออกมา
ที่ความหมายคล้ายๆ ว่า ถึงมีเราอยู่ก็ไม่ส่งผลให้อะไรดีขึ้น
อารมณ์เราหลังจากอ่านประโยคนั้นก็เลยยิ่งแย่
เข้าใจว่าจะทำให้คนอื่นรู้สึกแย่ไปด้วย กลัวว่าใครต่อใครจะเกลียดเรา
ก็เลยเฟดออกมา เปลี่ยนเรื่องไปซะ ไม่พูดถึงมัน
แต่เชื่อไหมตอนนั้น เราน้ำตาไหล
.
——————————————————————————
.
เข้าใจว่าไอ้เรื่องอย่างนี้เป็นความจุกจิกยิบย่อยมากในชีวิต
คนอื่นที่อายุเท่าเราป่านนี้เค้าคุยเรื่องการเมือง ติดตามความเป็นไปของประเทศ สนทนาปรัชญาการใช้ชีวิต
ใฝ่หาความรู้รอบด้าน มองสิ่งรอบตัวแล้วคิดวิเคราะห์กันไปถึงไหนต่อไหน
แต่เราเองไม่โตพอจะปล่อยมันไปง่ายๆ
ความเป็นผู้ใหญ่ในตัวเราจะหายไปเสมอถ้าเป็นเรื่องความเหงา ความรู้สึกว้าเหว่
พยายามเข้าใจหลายหน พยายามจริงนะ ไม่ใช่สักแต่พูดหรือพิมพ์
คิดอยู่ว่าทำไมนะ เราไม่ดีอย่างใครๆ ทำไมเราไม่ตัดเรื่องจิ๊บๆ พวกนี้ออกไป เก็บมาเป็นสาระทำไม
พอเข้าสู่โหมดทำความเข้าใจตัวเอง ก็พยายามบอกตัวเองว่าเราก็มีดี เราทำได้
แต่ไม่ค่อยสำเร็จ
การโตเป็นผู้ใหญ่แค่อายุอย่างที่เราเป็นอยู่
จะส่งผลแย่ต่อชีวิตเราแค่ไหนกัน
เราเองก็อยากจะรู้
พิมพ์แล้วเซฟเก็บไว้
อีก 10 กลับมาอ่านใหม่
เมื่อนั้นคงได้คำตอบ
.
(นี่แปลว่ากำลังจำนนต่อตัวเองเหรอ?)