Categories
Mumble

Chat battle #1

ตัวโต VS ตัวเตี้ย

บ่ายโมงกว่า / หก พฤษภา สองห้าห้าสอง
ที่สำนักงาน NCYD (นามสมมุติ)

ตัวเตี้ยนั่งอยู่ที่เก้าอี้รับแขก
กำลังรอเข้าประชุมงานกับพี่ๆ และเพื่อนในวงการ
ตัวโต (ทำงานอยู่ที่นี่) เดินผ่านมา

ตัวเตี้ย: สวัสดีค่า
ตัวโต: หวัดดีจ้ะ ทานข้าวยังเนี่ย
ตัวเตี้ย: ยังเลย พี่โตเลี้ยงไหมล่ะ
ตัวโต: เอ้า ถามจริง กินข้าวยัง
ตัวเตี้ย: ยังไม่ได้กินข้าวค่ะ…

ตัวโต: (ทำท่าจะไปหาอะไรให้น้องกิน)

ตัวเตี้ย: …กินแต่สปาเก็ตตี้

ตัวโต: พี่ไปทำงานก่อนนะ (-_-“)
ตัวเตี้ย: (ชนะ!)

ตัวโตเดินผ่านมาอีกรอบ

ตัวเตี้ย: พี่โตกางเกงสวยนะคะ ขอได้เปล่า
ตัวโต: ได้สิ
ตัวเตี้ย: ขอบคุณค่า ใจดีจัง (>_<)

ตัวโต: แต่เราคงต้องเอาไปตัดขาเยอะหน่อยนะ ..หึหึ

ตัวเตี้ย: ใจร้าย (T___T)
ตัวโต: (ชนะ!)

คะแนนรอบนี้
เสมอ 1:1

Categories
Mumble

เมื่อไรเขามา ฉันจะไป

ปากซอยลาดพร้าว 26
มีตึก 2-3 ห้องตรงหัวมุมทางเข้า ได้ชื่อ (จากพวกเรากันเอง) ว่าทำเลยอดแย่ (อ่านว่า ทำ-เล-ยอด-แย่ นะ ไม่ใช่ ทำ-เลย-อด-แย่)

ประมาณ 2 ปีก่อนมีร้านตัดผมบุรุษ ปิดกิจการไปก่อนวัยอันควร
ตึกตรงนั้นร้างราผู้พักอาศัยอยู่พักใหญ่
แล้วก็มีโรงเรียนกวดวิชามาเปิด และปิดกิจการในเวลาอันสั้นเช่นกัน สงสัยว่า(ไม่)รวยแล้วเลิก

จากนั้น (ยังมีอีก?)
สถาบันอะไรซักอย่างเกี่ยวกับการเล่นโกะ มาจับจองเป็นเจ้าของ
มาเงียบๆ ติดป้ายใหญ่ๆ บอกเราไว้ และไปเงียบๆ

พวกเรา (วายไอวาย) เคยสันนิษฐานสาเหตุของความมาเร็วไปเร็วนี้ว่า

  • ตึกมันอยู่ตรงหัวมุมน่ะ ทำเลไม่ดี (เหรอ? ปกติตึกตรงหัวมุมมักจะมีคนเห็นง่ายจากหลายทิศทางนี่หว่า)
  • ซอยลาดพร้าว 26 น่ะแคบ หาที่จอดรถยาก ใครๆ ก็เลยไม่สะดวกมาใช้บริการ (มีเหตุผลขึ้นมาหน่อย)
  • เดินทางมาลำบาก (ตรงไหน? มุมนั้นมีแทบทุกอย่าง ทั้งพี่วิน พี่ใต้ดิน พี่แท็กซี่ พี่รถเมล์ ขาดแค่เรือกับเครื่องบิน)
  • เจ้าของกิจการเค้าอาจจะประชาสัมพันธ์ไม่ดี ติดป้ายน้อยไปหน่อยเลยไม่ค่อยมีคนรู้จัก (อันนี้ก็ไม่แน่)
  • เงาดำมืดปกคลุมมั้ง ทำอะไรเลยไม่ได้ดีซักอย่าง (ออกแนวโยนความผิดให้สิ่งที่ไม่มีทางสู้ ในที่นี้คือเงาดำมืด)

ไม่รู้แฮะ
ทั้งที่หัวมุมตรงนั้นติดป้ายรถเมล์
แถมเดินไปอีกไม่กี่สิบเมตรก็ถึงรถไฟใต้ดินสถานีลาดพร้าวแล้วแท้ๆ
เหตุผลเรื่องการเดินทางยากลำบากนั้นปัดตกไปได้

มีช่วงนึงเราเพ้อๆ คุยกันว่า
“หรือเราจะไปเช่าที่ตรงนั้นทำธุรกิจอะไรซักอย่างดี ระดมทุนหาเงินทำงานไง”
(ก่อนจะได้ระดมทุนหาเงินทำงาน ต้องระดมทุนหาเงินซื้อตึกอีก โว้ว!)
.

ตึกหัวมุมนั้นเว้นว่างจากเจ้าของอยู่อีกพักใหญ่
ซึ่งเราไม่แปลกใจกันอีกต่อไปแล้ว ไม่ใช่เพราะคิดสาเหตุออกหรืออะไร
แต่เบื่อจะคิด (ก่อนหน้านี้ทำไมไม่คิดได้แบบนี้วะ เสียเวลาไปเปล่าๆ ปลี้ๆ)

แต่สองสามวันที่ผ่านมา เหมือนจะมีใครมาจับจองเป็นเจ้าของตึก
เพราะมีแก๊งชายฉกรรจ์ล่ำบึ้กมาดูแล คล้ายจะปรับปรุงเพื่อกิจการใหม่อะไรซักอย่างของใครซักคน

ยังคิดในใจว่าจะรอดไหม ภาวนาให้มาดีไปดีก็แล้วกัน

แล้ววันนี้เราก็ได้รู้

พอเดินออกจากบ้านวายไอวายซอย21 (ตรงข้ามกับซอย26 –ที่ซึ่งเราเลือกจะจากมา)
เห็นแถบสีส้ม สีเขียว และเลขเจ็ด!

โอ้วววววว
มันคือ เจ็ดสิบเอ็ด
เซเว่นอีเลฟเว่น!

ดีใจกรี๊ดกร๊าด
ในที่สุดตึกตรงนั้นก็มีทางออกที่ดี
รู้สึกแถวนี้กำลังจะร่าเริงขึ้น

แต่…
เซเว่นมา แล้วร้านค้าคุณป้าที่อยู่ในซอยล่ะ
สมาชิกชาวหอพักข้างในคงไม่ทิ้งร้านคุณป้าให้เหงาเศร้าหรอกใช่ไหม
ร้านค้าคุณป้าอยู่ใกล้หอพักมากกว่าเซเว่นด้วย
ช่วงกลางวันน่าจะยังขายได้
ไว้ดึกๆ ชาวหอค่อยอุดหนุนเซเว่น

บลาบลาบลา…
.
.
.
.
.

เรื่องคงยังไม่จบแค่นี้
สีสันและแสงสว่างดึงดูดใจของร้านสะดวกซื้อคู่คนไทยตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง จะส่งผลถึงใครในซอยอย่างไรบ้าง ยังไม่มีคำตอบ
(แม้ในใจจะมีภาพบางอย่างลอยเข้ามา)

บางทีชีวิตคนในซอยน่าจะสนุกขึ้น
คุณป้าอาจจะมีแรงกระตุ้นมากขึ้นในการขายของ
อย่างเช่นคำนวณราคาให้ถูกลง จัดหน้าร้านใหม่ ยิ้มแย้มแจ่มใสกว่าเดิม ฯลฯ

แบบนี้ในโลกทุนนิยมเสรีเรียกว่าเป็นผลดีต่อผู้บริโภคใช่ไหม
เมื่อมีการแข่งขัน เจ้าของกิจการย่อมจะพยายามปรับหากลยุทธ์บางอย่างมาเอาใจให้ผู้บริโภคสนใจสินค้าและบริการของตน

ขออย่างนึง
อย่าให้คุณลุงคุณป้าต้องผันตัวเองจากผู้จำหน่ายสินค้าปลีกไปเป็นผู้บริโภคอย่างเดียวเลย
นั่นมันอาชีพหลักในการเลี้ยงปากท้องเชียวนะ…

คิดว่าพวกเราเองก็ต้องช่วยกัน
–ช่วยยังไง?
–อย่างง่ายๆ ก็ ช่วยอุดหนุนไง หรือช่วยแนะนำสินค้าที่คุณป้าน่าจะมีขายก็ได้ อย่าเทใจให้ธุรกิจ(เจ้าของ)ใหญ่ไปเสียหมด
.
.
.

ส่งพลังให้คุณลุงคุณป้าล่วงหน้า!
แม้เซเว่นมา ก็ขอให้คุณป้าอยู่ต่อไป

(พวกเขาจะรู้ไหมว่าไอ้ระบบนี้เราต้องสู้ ต้องไม่จำนน ฮึบๆ)

Categories
Mumble

เสียงข้างในจิตใจ

เราเกลียดคุณแล้ว

คุณเปลี่ยนแปลงอะไรที่เราคิดว่าดี
คุณทำร้ายสิ่งที่เราตั้งใจทำ
คุณจำกัดขอบเขตความคิดการแสดงออกของเรา
คุณสร้างกรอบให้สิ่งที่เราทำด้วยคำสั้นๆ คำนั้นเสมอ

การเปลี่ยนแปลงจากคุณมักมาถึงเราในตอนท้าย
ทั้งที่มีเวลาช่วงกว้างๆ ตั้งนาน
คุณกลับมาเปลี่ยนในช่วงก่อนเส้นตาย
ด้วยเหตุผลคำสั้นคำนั้นคำเดิม

เราไม่จำเป็นต้องฟังคุณจนเข้าใจ
เราแค่ทำตามที่คุณอยากได้เท่านั้นก็พอ.. ใช่ไหม

ตกลงว่าเราร่วมงานเป็นเพื่อนร่วมงานเท่านั้น
ความรู้สึกดีที่เคยมีมันหล่นหายไปตามทาง
เราจะตามไปเก็บมันได้ที่ไหน
หรือที่จริงปล่อยมันไป เราไม่ควรไปตามหา
เพราะพอเดินกลับมา มันก็จะหล่นหายไปอีกอยู่ดี

ความรู้สึกแบบนี้ของเรา
เรารู้มันผิด
เพราะคุณควรจะมีสิทธิมีอำนาจเต็มที่ในการกำหนด
ให้ทุกเรื่องเป็นไปอย่างที่คุณต้องการ
เพราะวันนี้ส่วนหนึ่งเราทำงานได้เพราะคุณ

แต่ถ้าทุกอย่าง “ต้อง” เป็นอย่างนั้นอย่างนี้
เราจะทำงานไปเพื่ออะไร
อย่างนั้นเราก็ไม่จำเป็นต้องคิด ไม่ต้องออกแบบสิ่งที่เราอยากทำ
แค่ไปรอรับสิ่งนั้นจากคุณแล้วทำตามก็พอ… ไม่ใช่เหรอ

การอยู่แบบพึ่งพา ทำร้ายคนที่ด้อยกว่าเสมอไปหรือเปล่า
วันนี้เรารู้สึกอย่างนั้น

Categories
Mumble

คุ้มค่าเหนื่อย

เหมือนทำงานไม่เสร็จอยู่ตลอดเวลา
ทำหลายอย่างไล่ๆ กัน
ทำไปทำมาก็ยุ่งพันกันไปหมด

ไอ้โน่นเข้า ไอ้นี่แทรก
โดนตัดหน้างานหนึ่งด้วยงานสอง
งานสองจุดห้าตัดหน้างานสาม

เจอแบบนี้เลยวุ่นวาย
ไม่ใช่มาบ่น
มาบันทึกสถานการณ์ไว้ =)
ว่าเรื่องคล้ายๆ อย่างนี้ถ้าเกิดขึ้น
ช่วงแรกเราจะแอ็กทีฟมาก
กระตือรือร้น ทำๆๆ

แต่พอหัวหมุนหลายๆ ทางเข้า
เราจะล้า

พอล้าแล้วจะมีอารมณ์เหนื่อย
แล้วจะนิ่ง

เห็นไหมว่าการไม่จัดลำดับงาน
สุดท้ายก็ให้โทษกับตัวเอง

สำหรับตอนนี้ เหนื่อย-จัง-แฮะ
ไม่ได้ทำอะไรเยอะเท่าไหร่
แต่ด้วยความวุ่นวายข้างบน มันส่งผลเร็วเหลือเกิน

.

…นี่แปลว่าเรายังได้ใช้ชีวิตใช่ไหม…

.

เป็นคนก็ดีแบบนี้แหละ
จะเหนื่อยจะแย่ยังไงก็ยังได้อีกสิ่งกลับมาเสมอ

เราขอเรียกสิ่งนี้ว่า ความคุ้มค่า.

.

.

.

ป.ล.
ยังไงก็ตาม…
ใครอะไรที่ไหนก็ได้
ถ้ายังพอมีอยู่บ้าง แบ่งพลังของคุณมาให้เราหน่อยได้ไหม
เราอยากกลับไปสู้ต่อได้เร็วๆ

ขอบคุณล่วงหน้าจ้ะ =)

Categories
Mumble

Be what you want to be

เป็นอะไรก็เป็นไป
เป็นอย่างที่ใจอยากเป็น

ถ้าไม่รู้ว่าใจอยากเป็นอะไร
ก็เป็นอย่างที่เป็นแล้วรู้สึกดี

ถ้าไม่รู้ว่ารู้สึกดีเป็นยังไง
ก็เป็นอย่างที่เป็นแล้วยิ้มได้

ถ้าไม่รู้ว่าเป็นแล้วยิ้มได้เป็นยังไง
ก็ให้เป็นอย่างที่…

โว้ว!
จะเป็นอะไรก็เป็นไปเหอะ
จะอึดอัดจะสนุกจะสดใสสบายใจหรือต้องร้องไห้ทุกวัน
แต่ถ้ายังอยากเป็นแบบนั้นอยู่ ยังไปไหนไม่ได้
ยังไม่สนใจจะเป็นอะไรอย่างอื่น
ก็เป็นไป

——————————————-

นึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาเพราะน้องสาว
แต่ก่อนสนิทกับน้องชายเพราะโตมาด้วยกันแบบเพื่อน
เดี๋ยวนี้ห่างไปด้วยปัจจัยอะไรไม่รู้
(ขี้เกียจพยายามหาสาเหตุ ก็ปล่อยให้มันเป็นไป)

กลับมาเรื่องเก่า
รู้สึกว่าน้องสาวรักเรามาก มากกว่าที่เรารักเค้าซะอีก
ไม่ว่าเราจะเป็นยังไง ทำอะไร ผิดคำพูดกี่หน
น้องสาวจะเข้าใจเราเสมอ (หรืออย่างน้อยก็ทำให้เรารู้สึกว่าเค้าเข้าใจ)

เราว่าเราเป็นพี่ที่แย่ ถึงแย่มาก
น้องเราก็ยังแสดงออกว่ารักและคิดถึงตลอดไม่เปลี่ยน
เป็นแบบนี้มานาน… แล้วเราเปลี่ยนไปมั้ย เราทำตัวดีขึ้นมั้ย…
ก็เปล่า

เออ น้องมันยังทนได้เนาะ

จบเรื่องน้องดีพี่เลว (ฮ่าๆ)

อยู่มาวันหนึ่งน้องเราเป็นตัวของตัวเอง
แต่งตัวแนวอีโมร็อกหน่อยๆ
ที่ว่าหน่อยก็คือ มักจะใส่ยีนส์หรือขาสามส่วนกับเสื้อดำตราห่าน
ไม่มากกว่านี้ละ

อีกหน่อยคือ ตัดผมซอยกึ่งสั้นกึ่งยาว ทำสีผมทองทั้งหัว เซ็ตผมตั้งๆ
ทำมาก่อนแล้วค่อยบอกเตี่ยแม่
ทั้งที่ที่บ้านค่อนข้างหัวโบราณนะ
แต่น้องสาวแค่โดนบ่นๆ ขำๆ นิดเดียว ก็มันแก้อะไรไม่ได้แล้ว (นับเป็นวิธีที่ดี)

พอเป็นแบบนั้น แล้วเจ้าตัวผิวขาว ถึงจะอวบ ตัวใหญ่
แต่ก็มีสาวดี้มาชอบ ขอเบอร์ โทรมาคุยด้วยแก้เหงา
นับเป็นลูกที่ประสบความสำเร็จด้านเสน่ห์อย่างมาก
(เปลี่ยนเป็นอย่างมากที่สุดเมื่อเทียบกับพี่มัน!)

แรกๆ ก็อึกอัก เปล่านะหนูชอบผู้ชาย
ต่อมา …เค้าโทรมาก็คุยกะเค้าหน่อย แต่ที่จริงก็รำคาญแหละ …หนูชอบผู้ชาย

วันนึง หลังย้ายจากบ้านที่ศรีราชามาเรียนในกรุงเทพฯ มีพี่ทอมมาจีบ
ก็บอกไม่มีอะไร คุยด้วยเฉยๆ
สักพักออกไปกินข้าวด้วย มีคุยเขินๆ
เล่าให้เราฟังบ่อยขึ้น
เอ้อ แบบนี้พี่มันก็งงสิ

ให้คำแนะนำผิดๆ ถูกๆ อยู่พักนึง
มาหายงงวันที่เค้าบอกว่าเป็นแฟนกันแล้วนั่นแหละ

ตกลงน้องเราไม่ใช่ทอมนะว้อย
เป็นดี้ต่างหาก!

สาวๆ ที่มาจีบนั้นล้วนเข้าใจผิด มาผิดทาง
ดี้มาจีบดี้ มันจะเป็นไปได้ไงใช่มะ
ต้องพี่ทอมคนล่าสุดนี่ มาถูกทาง ฮ่าๆ

เราก็ไม่อะไร
คิดอยู่หน่อยๆ ว่า ถ้าเป็นคนอื่นมีน้อง เค้าจะต้องรู้สึกยังไง
แต่สำหรับเรามันธรรมดามาก
น้องเราจะเป็นแบบไหนก็ได้ อย่างที่เค้าอยากเป็น
เค้าจะบอกเราทุกเรื่องหรือไม่ก็ได้
เราเชื่อว่าต่างคนต่างมีเรื่องสำหรับคุยกับแต่ละคนไม่เหมือนกัน

ไม่ว่าเราจะบ่นจะเตือนหรืออะไร
แต่เรามันใจว่าเราไม่เคยบอกให้น้องเราเลิกทำแบบนั้นแบบนี้
เป็นสิทธิส่วนตัวที่เราคิดว่าทุกคนควรได้ไปเต็มที่
ตัวเราเองก็ต้องการแบบนั้น

จบห้วนๆ.

ป.ล.
ถ้าน้องนิว (นามสมมติ) มาอ่าน
พี่แนน (นามสมมติ) ไม่ได้ตั้งใจเอาเรื่องหนูมาประจาน
แต่เอามาเป็นกรณีศึกษาเรื่องแนวคิดการใช้ชีวิตเน้อ
(ก็แก้ตัวกันไป ฮ่าๆ)