Categories
Stuff

Paper of memories

นึกครึ้มใจเอาโปสการ์ดที่เก็บไว้ตั้งแต่ประมาณ 4 ปีก่อนมาจัดใส่สมุดอัลบั้ม

(อนึ่ง สมุดอัลบั้มที่ว่านี้ซื้อมาดองตั้งแต่ปีที่แล้ว)
ที่จริงก็ไม่ได้มีแต่โปสการ์ดอย่างเดียว มีเศษกระดาษคำดีๆ ที่เพื่อน-น้อง-พี่ เขียนและฉีกให้ในค่าย
มีภาพวาดกะโหลกกะลาในกระดาษเอสี่ที่น้องๆ เอามายัดใส่มือตอนไปเป็นวิทยากรฝึกอบรม
มีจดหมายพร้อมภาพถ่าย ที่เจ้าของลายมืออุตส่าห์เขียนคำโปรยไว้บนซองว่า “ยิ้มก่อนอ่าน ตาหวานก่อนเปิด” เก่าแต่น่ารักดีจริง

เรียงไปอ่านไปยิ้มไป ทั้งที่มีคนส่งมาให้และที่เราส่งถึงตัวเอง เหมือนได้เปิดลิ้นชักความทรงจำขนาดย่อม
เรียงไปเรียงมาถึงได้รู้ว่าเรามีโปสการ์ด-กระดาษ-จดหมาย อะไรทำนองนี้อยู่เยอะมาก ร่วมร้อยใบได้มั้ง
(จำนวนเท่านี้ถือว่าเยอะสำหรับเราหละนะ ฮิๆ)
คิดว่าคงต้องหาสมุดอัลบั้มมาใส่อีกอย่างน้อยสามเล่ม หรือไม่ก็หากล่องมาใส่จะได้ไม่วุ่นวายในภายภาคหน้า

เสียดายโปสการ์ดบางใบหมึกซีดจางมาก ขณะอ่านต้องพยายามเพ่งสายตาอย่างแรง
ขนาดผ่านมาแค่ไม่กี่ปีนะ ไม่รู้ปีหน้าเปิดอ่านจะมองตัวอักษรเห็นอยู่ไหม

พอได้เห็นชื่อคนโน้นคนนี้บนกระดาษสี่เหลี่ยม ทำให้คิดได้ว่ามีคนอีกจำนวนหนึ่งในชีวิตที่คิดถึงเรา
อย่างน้อยก็ในอดีตครั้งที่เขาจรดปากกาเขียนชื่อที่อยู่ ส่งกระดาษพร้อมข้อความมาให้ (บางคนไม่รู้จัก หลายคนไม่เคยเจอหน้ากันด้วยซ้ำ)
และต่อจากนี้ถ้ามีโอกาส เราจะส่งความรู้สึกพร้อมกระดาษของเรากลับไปให้เขาเหล่านั้นบ้าง…

ด้วยความขอบคุณ (:

ป.ล. นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
จะเขียนโปสการ์ดให้ติดแน่นทนนานไม่ละลายไปกับของเหลวใดๆ ควรใช้ปากกาลูกลื่นสีเข้ม
เพราะปากกาเจล ปากกาบอลไซน์สีสวยทั้งหลายหายไปในของเหลวและอากาศง่ายเหลือเกิน

Categories
Mumble

ฝันเป็นตุเป็นตะ

เมื่อวานเย็นไปซื้อของที่เซเว่น ประกอบด้วยน้ำแข็ง สปาย ชาเขียว และลูกชิ้น ก่อนจ่ายเงินฝากคุณพนักงานอุ่นลูกชิ้น จ่ายเงินเสร็จปุ๊บ เราและพี่สาวชื่อเป๊ะ (นามสมมติ) ก็เชิดของออกจากร้านไม่สนใจใคร ไม่สนใจลูกชิ้นสองไม้นั้นด้วย แถมตกดึกพี่เป๊ะ (นามสมมติ) ยังหาว่าเรามุบมิบลูกชิ้นเค้าไปอีกต่างหาก (ใครจะไปยอมรับล่ะ!) อดกินไปตามระเบียบ

ถัดจากโศกนาฏกรรมลูกชิ้นที่เซเว่น แวะทำธุระตามความสนใจนิดหน่อยแล้วไปปล่อยแก่กับเพื่อนพี่น้องที่ถนนมีชื่อ แห่งหนึ่ง เจอเครื่องดื่มยี่ห้อไม่คุ้นคอ ยังคิดอยู่ว่าเช้ามาจะมึนไหม แต่ก็ไม่สนใจอะไรมาก มีอะไรก็ใช้อย่างนั้น

แล้วสองเหตุการณ์ธรรมดาก็มาบรรจบกันในฝัน…

คุณพนักงานเซเว่นมาหาที่บ้าน บอกว่าเอาลูกชิ้นมาให้ พี่เป๊ะรับไว้ (ถ้าจำไม่ผิด)
ส่วนเรากำลังพะอืดพะอมเพราะอาหารเป็นพิษ พี่เป๊ะเลยเดินมาสอนตามประสาผู้แก่ประสบการณ์
“นี่ถ้าเป็นพี่นะไม่มีทางแฮงค์ เพราะเดี๋ยวนี้พี่จะชงบางๆ แล้วค่อยๆ จิบ พอกินกันจนถึงกลางทางก็ดื่มน้ำเปล่าตามเข้าไปเยอะๆ จะได้ปวดฉี่เข้าห้องน้ำบ่อยๆ แค่นี้ก็ไม่เมา ตื่นเช้ามาสบายบรื๋อ ไม่ต้องมาทนมึนหัวแบบนี้หรอกย่ะ”

ตื่น!

เมื่อก่อนเราเป็นคนหลับง่าย เพื่อนหลายคนบอกว่าเราหลับเหมือนตาย คือนอนนิ่งหลับลึกมาก ใครเสียงดังโหวกเหวกหรือเผลอเดินเหยียบก็ไม่ตื่น เพื่อนคนหนึ่งทำการทดลองปลุกเราโดยการยกแขนเราขึ้นจนสูงสุดแล้วปล่อยให้ตกลงมากระแทกพื้น
“ตุ้บ!”
เรายังคงหลับสนิท

ไม่รู้ด้วยเหตุนี้หรือเปล่าทำให้เราไม่ค่อยฝันและไม่เคยต้องตื่นมาเข้าห้องน้ำกลางดึก

เกือบปีที่ผ่านมาค้นพบความเปลี่ยนแปลงของร่างกาย
นอนไม่หลับบ่อยขึ้น หลายครั้งตื่นมากลางดึกเพื่อเข้าห้องน้ำและนอนหลับต่อไม่ได้จนเกือบเช้า
หลับเมื่อไหร่ฝันเมื่อนั้น

ในฝันของเราจะมีคนที่เราไม่สนิทแต่เคยเห็นหน้ากันอยู่บ้างปรากฎเข้ามาบ่อยๆ
หรือเป็นคนที่หายไปจากกันและกัน ไม่เจอกันนานแล้ว
บางทีก็มีตัวละครที่เป็นญาติมาเจอกับเพื่อนที่ทำงาน สนิทสนมกันในฝันทั้งที่ชีวิตจริงไม่เคยเจอกัน
ฝันถึงสถานการณ์แย่ๆ เรื่องงานที่เรากังวลมาทั้งวันจนกระทั่งนอน
มีฝันที่น่ากลัว ต้องหนีสุดชีวิต สะดุ้งตื่น-รู้ตัวว่าฝันร้าย พอเริ่มเคลิ้มหลับอีกรอบก็เริ่มฝันต่อจากเดิม ขณะเดียวกันเรารู้ตัวว่ากำลังจะฝันร้ายก็จะพยายามฝืนไม่ให้ตัวเองหลับต่อ แต่สุดท้ายก็ทนไม่ไหวหลับไปด้วยความเพลียโดยไม่ฝันอะไรต่อเลย
และเคยฝันเกี่ยวกับความรักที่ส่วนใหญ่ประหลาดเสียจนไม่มีทางเกิดขึ้นได้
(เช่นเราเป็นแฟนกับผู้หญิง, เป็นแฟนกับผู้ชายที่เราไม่รู้จักไม่คุ้นเคยด้วย)

เคยคิดว่าแปลกที่ฝันมาทั้งคืน ตื่นมากลับจำอะไรไม่ค่อยได้ หรือถ้าจำได้ก็เลือนรางมาก
ฝันที่มีมูลเหตุ เช่นความกังวล ความเศร้า เราก็พอเข้าใจได้
แต่ฝันประหลาดมากมายไม่รู้เกิดขึ้นได้ยังไง

ถึงทั้งหมดนั้นเราจะไม่ค่อยเข้าใจ แต่เราสัมผัสได้ว่าถ้าคืนไหนที่ฝันจัดหนัก เราจะตื่นมาพร้อมกับความเพลีย
ซึ่งไม่ส่งผลดีสักนิด

(เริ่มด้วยเรื่องขำๆ ไหงจบจริงจังงี้?)

Categories
Reminder

เว้นวรรค

ในชั่วขณะที่ชีวิตเผชิญเหตุการณ์ที่เธอนิยามมันว่าเลวร้าย
หรืออยู่ในห้วงความคิดแย่ๆ ตั้งแง่ทั้งต่อตัวเองและคนอื่น
เธออาจคิดไม่ตกว่าทางออกอยู่ที่ไหน จะพาตัวเองพ้นไปจากความรู้สึกไม่ดีนี้อย่างไร
และพยายามครุ่นคิดจะไปสู่ทางออกนั้นให้ได้

ชั่วขณะนั้นเธอเป็นทุกข์

Categories
Poem

สี่แยก

ไฟแดง

40
39
38

เด็กชายหน้าตามอมแมม อายุราว 7-8 ปี เดินจากเกาะกลางฝ่าเข้าไปในหมู่รถยนต์ที่จอดนิ่งกลางถนน
มือถือของอย่างหนึ่งที่เด็กส่วนใหญ่ในวัยเดียวกันไม่คุ้นเคย

32
31

เขากวาดสายตาไปรอบๆ อย่างรวดเร็วหนึ่งครั้ง ก่อนจะหยุดอยู่ที่รถยนต์ส่วนบุคคลคันหนึ่ง
“ผู้หญิงขับ”
เขาตัดสินใจเดินเข้าไปหารถคันนั้นด้วยท่าทีมาดมั่นขัดกับแววตา

28
27
26

หัวของเด็กชายเกือบโขกกับกระจกมองข้าง
เขาเขย่งสุดปลายเท้า ยืดมือข้างที่ถือด้ามพลาสติกไปสุดแขน
ฟองน้ำสีสกปรกสัมผัสกระจกหน้ารถส่งเสียงอี๊ดๆ เบาๆ สองสามครั้ง เขาลดแขนลงและกลับมายืนเต็มเท้าพลางมองเข้าไปในรถ

19
18

หญิงสาวหน้าพวงมาลัยนั่งนิ่ง มองตรง ไม่สบตา
เด็กชายยืนท่าเดิม สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าหญิงสาว

10
9
8

ในความเงียบ หญิงสาวใช้มื้อซ้ายควานหาอะไรบางอย่าง
เธอลดกระจกลง ยื่นมือส่งเหรียญกลมให้เด็กชายสองเหรียญ

5
4

เด็กชายรับเงินแล้วค้อมตัวขอบคุณ
หย่อนเหรียญใส่กระเป๋ากางเกงแล้วกึ่งเดินกึ่งวิ่งกลับไปที่เกาะกลางถนน

3
2

“ไฟเขียวเสียที”
หญิงสาวเหยียบคันเร่ง พลางเอื้อมมือเปิดสวิตซ์ฉีดน้ำและที่ปัดน้ำฝน

Categories
Mumble

ก่อนนอน

กำลังบังคับตัวเองให้อยากนอน
ถ้าอยากนอน ความง่วงก็จะเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย (คิดเอาเอง)

ทันใดนั้นโดยไม่ทันตั้งตัว
จู่ๆ ก็มีตัวหนังสือมากมายพรั่งพรูอยู่ในหัว

ความรักความสัมพันธ์ในวันนี้
อาหารที่กิน
สถานที่ที่ไป

ความรู้สึกต่างๆ นานา ไหลเข้ามา
คล้ายๆ จะมาเตือน

เธอใช้พื้นที่ความทรงจำในสมองเยอะเกินไปแล้ว
เยอะจนพวกฉันกำลังจะล้นออกไปข้างนอก
ช่วยทำอะไรสักอย่างเถอะ!

นั่นสินะ
คงจะนานเกินไปแล้วจริงๆ ที่เก็บทุกสิ่งไว้ข้างใน
ควรพ่นอะไรออกมาข้างนอกบ้าง

ทั้งที่จริงกำลังบังคับตัวเองให้อยากนอน
จนแล้วจนรอดก็ทนไม่ได้
นิ้วมือทั้งแปดคงร้องเสียดายถ้าคืนนี้ไม่ได้ sign in เข้ามา

–คิดถึง

–แล้วเจอกัน!