เคยได้ยินเรื่องกวีไฮกุ (หรือไฮคุ?) อ่านไฮกุครั้งแรกในหนังสืออะเดย์ (ถ้าจำไม่ผิด)
ที่ว่าเป็นบทกวีของญี่ปุ่น 1 บทมี 3 วรรค แต่ละวรรคมีความยาว 5-7-5 ตัวอักษร ตามลำดับ
จากนั้นก็ได้ยินเรื่องแคนโต้ จากคุณ คนหนึ่ง
ที่เป็นกลอนเปล่าของไทย ไม่มีสัมผัส
1 บทมี 3 บาท บาทละ 1 วรรค แต่ละวรรคไม่กำหนดจำนวนพยางค์
แคนโต้มีลักษณะเด่นคือใช้คำน้อย แต่ให้ความหมายลึกซึ้ง คล้ายไฮกุของญี่ปุ่น
…
วันนี้อยู่บ้านคนเดียว
เพิ่งกลับจากกินเหล้าปั่นกับแก๊งฟอนต์
หลังวางสายโทรศัพท์จากคนที่ทำให้ใจวุ่นวาย
–นึกถึงคนที่เคยเล่าเรื่องแคนโต้ให้ฟัง
–ลองส่งแคนโต้ไปให้อ่าน
–กลายเป็นการ “โต้แคนโต้” โดยบังเอิญ
(ของแนน สีเข้ม ของคุณ สีอ่อน)
.
.
บ้านเงียบเหงา
ปลาการ์ตูนสีส้มร่าเริงในตู้กระจก
คนไร้สติ
รถไฟขบวนนี้
รอยยิ้มไปไกลถึงกรุงเทพ
นกบินในกระจก
คนเคยรักติดต่อกลับมา
ฉันหวั่นไหวและโศกเศร้า
ไม่เข้าใจตัวเอง
ความมืด
คุณคงไม่รู้หรอกว่าแสงไฟน้อยนิดเพียงใด
ถ้าหัวใจหกล้ม
ความสว่าง
แม้สิ้นหวัง
ก็คงไม่ต่างจากการหลับตาในความมืด
ลมที่ปลิวผ่านมา
ความรักที่พัดไปไกล
จากนี้ต่อไป
จากนี้เดียวดายต่อไป
หันหน้าให้ความสดใส
ดูแลหัวใจตัวเอง.
.
.
ข้อเสียของแนนตอนเขียนแคนโต้คือ
พยายามหาคำสวย (มากไป –ซึ่งก็หาไม่ค่อยได้ -*-)
พยายามหาสัมผัส (ซึ่งไม่จำเป็นสำหรับแคนโต้)
สื่ออะไรอ้อมค้อมเยิ่นเย้อ (ซึ่งแคนโต้ต้องกระชับ สื่อสารตรงไปตรงมา)
.
มีอารมณ์เขียนอีกเมื่อไหร่ คงได้พัฒนาต่อ
.
.
(อื่นๆ เกี่ยวกับแคนโต้ อ่านได้จาก ThaiCanto.com ค่ะ)
One reply on “โต้แคนโต้”
ว๊าย ว๊าย
พิมพ์ผิดได้ด้วย
“ขอเสียของแนนตอนเขียนแคนโต้คือ”
(จะ ขอเสีย อะไรเหรอ ??)
อิอิ
เค้าเคยเขียนแคนโต้ส่งไปอะเดย์ด้วยล่ะ…
ถ้าจำไม่ผิด หัวข้อ “ไก่”
555